นายทวี  ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ  ธนาคารกสิกรไทย  เปิดเผยถึงกรณีที่ลูกค้าพบอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลบัตร (สกิมมิ่ง) ที่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยบริเวณปากซอยรามคำแหง58/3 ซึ่งธนาคารฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบว่า  เครื่องเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทยในที่เกิดเหตุเป็นเครื่องเอทีเอ็มยี่ห้อเอ็นซีอาร์  ที่ธนาคารฯมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรหรือแอนตี้ สกิมมิ่ง(Anti-Skimming)ไว้อยู่แล้ว  ซึ่งจากข้อมูลพบว่าคนร้ายได้นำอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลมาติดตั้งในลักษณะสวมทับบริเวณช่องเสียบบัตรเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องเอทีเอ็ม  โดยถือเป็นครั้งแรกที่พบอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลลักษณะนี้ที่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารฯ และคนร้ายได้มีการติดตั้งกล้องรูเข็มไว้ด้านบนของตู้ด้วยโดยจากกล้องวงจรปิดที่ตู้เอทีเอ็มพบว่าคนร้ายที่ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลเป็นชาวต่างชาติจึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด  “ กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่เกิดความเสียหายแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรของธนาคารฯและลูกค้าที่ใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าธนาคารให้ความสำคัญความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของลูกค้าสูงสุด  โดยติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูลไว้ที่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารทุกเครื่องทั่วประเทศและตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องเอทีเอ็มอย่างสม่ำเสมอโดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมตรวจหาสิ่งผิดปกติของเครื่องเอทีเอ็มทุกเครื่องอย่างไรก็ตาม  ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเครื่องมากขึ้น” นอกจากนี้ผู้ถือบัตรที่ใช้บริการที่เครื่องเอทีเอ็มทุกเครื่องของทุกธนาคารควรสังเกตความผิดปกติของเครื่องที่ใช้บริการ เช่นมีอุปกรณ์แปลกปลอมหรือสิ่งผิดปกติหรือไม่ ขณะกดรหัสควรใช้มือบังไว้และควรเปลี่ยนรหัสประจำบัตรเป็นระยะ เพื่อไม่ให้คนร้ายมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลได้  ทั้งนี้หากลูกค้าพบอุปกรณ์ผิดปกติที่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารสามารถแจ้งผ่าน เค-คอนแทค เซ็นเตอร์ หรือ  โทร. 02-888-8888 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ซึ่งธนาคารจะนำข้อมูลที่ได้รับมาดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยทันที                           

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสิกรไทยแจงคนร้ายต่างชาติสกิมมิ่งตู้เอทีเอ็ม

Posts related