นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมของขวัญของชำร่วยและของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมในประเทศปีนี้น่าจะเติบโตน้อยน้อยที่สุดในรอบ 3 ปี หรือโตเพียง 8% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 15% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และทำให้ไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกันช่วงเวลาการจับจ่ายสินค้าปลายปีเหลือเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นระยะสั้นเกินกว่าจะมีปัจจัยใดเข้ามากระตุ้นได้ “ตอนแรกที่มีปัญหาเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ยังคาดว่าตลาดอาจเติบโตได้ถึง 10% แต่เมื่อมีปัญหาทางการเมืองมากระทบทำให้การเติบโตตกลงอีก ซึ่งสมาคมฯ คาดว่าหากปัญหาการเมืองยุติลงได้ในกลางเดือน พ.ย. นี้ ตลาดอาจยังโตถึง 10% ได้ แต่ขณะนี้ สถานการณ์กลับยืดเยื้อ ซึ่งเกินเยียวยาแล้ว เพราะเหลือเพียงเดือนกว่าก็จะหมดปี ทั้งที่ปกติคนจะเริ่มซื้อของขวัญตั้งแต่ต.ค. แต่จนถึงขณะนี้ตัวเลขที่เขามาก็ยังไม่เพิ่มขึ้นเลย” ทั้งนี้อุตสาหกรรมของขวัญของชำร่วยและของตกแต่งบ้าน มีลูกค้า 3 ประเภท ได้แก่ ลูกค้าในประเทศ ลูกค้าต่างชาติ-นักท่องเที่ยว และลูกค้าองค์กร ซึ่งลูกค้าในประเทศเป็นกลุ่มหลักที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจครั้งนี้ อย่างไรก็ดีปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูง ทำให้รายได้จากลูกค้าชาวต่างชาติเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งเข้ามาชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลง และคงอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมเอาไว้ได้ ขณะที่การค้าในเขตชายแดนก็เติบโตดีเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ติดกับประเทศลาว พม่าและกัมพูชา โดยรายได้ส่วนนี้เติบโตสูงที่สุดถึง 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะสินค้าไทยมีเอกลักษณ์ และรูปแบบ ที่สวยงาม จึงเป็นจุดเด่นที่ครองใจชาวต่างชาติ สำหรับลูกค้าองค์กร ซึ่งจะสั่งทำสินค้าพิเศษ หรือกระเช้าของขวัญเพื่อมอบให้แก่ลูกค้า ก็เติบโตลดลงเช่นกัน เพราะหลายบริษัทต้องการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ทำให้ภาพรวมยอดการสั่งซื้อสินค้าปีนี้ลดลงถึง 10% และบางบริษัทยอดการสั่งซื้อลดลงถึง 30% ทั้งหากมองในแง่ดี คาดว่าปีหน้ารายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากปีนี้ ทำให้ธุรกิจที่แข่งขันสูง หันมาให้กระเช้าของขวัญสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่องค์กรมากขึ้น “การที่หลายห้างออกมาพูดว่าตลาดกระเช้าปีนี้จะคึกคัก ก็เข้าใจว่าเป็นการช่วยกันสร้างบรรยากาศการจับจ่าย แต่หากมองในแง่ตัวเลขแล้ว ไม่สามารถโกหกได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์มันแย่จริงๆ แต่นอกจากเพราะพิษเศรษฐกิจแล้ว เทรนของโลกที่เริ่มเปลี่ยนก็มีส่วนให้กระเช้าได้รับความนิยมลดลง เพราะคนเริ่มหันมาให้สินค้าโอทอป หรือ สินค้าประหยัดพลังงานกันมากขึ้น” ด้านสินค้าที่คาดว่าจะได้รับความนิยมซื้อไปเป็นของขวัญในปีนี้คือสินค้าในกลุ่มรักษ์โลก 4 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติและปลอดสารเคมี สินค้ากรีนโปรดักส์ หรือสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบรีไซเคิล และสินค้าประหยัดพลังงาน ซึ่งกระแสนี้เริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับความนิยมมากว่า 5 ปีแล้ว ทั้งนี้จึงเชื่อว่ากลุ่มสินค้าข้างต้นจะยังได้รับความนิยมในไทยต่อไปอีกระยะหนึ่งเช่นกัน ส่วนสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมแล้วในขณะนี้ได้แก่ กระเช้าเครื่องดื่มแอลกอล์ฮอล์ กระเช้าผักสด สินค้าเครื่องหนัง อาทิ กระเป๋าใส่เหรียญ และอุปกรณ์ตกแต่งโทรศัพท์มือถือ อาทิ สายห้อย หรือ สายคล้องคอ ด้านพฤติกรรมการเลือกซื้อของขวัญตามช่วงอายุแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น จะพิจารณาสินค้าที่อยู่ในกระแส อาทิ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าแบรนด์เนม และสินค้านำเข้า โดยสินค้าจากประเทศจีนได้รับความนิยมสูงที่สุด กลุ่มวัยทำงาน จะพิจารณาสินค้าตามลักษณะการใช้ชีวิต และกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงวัย จะพิจารณาสินค้าที่คาดว่าผู้รับจะสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยอาหารและของทานเล่นได้รับความนิยมสูงที่สุด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : การเมืองพ่นพิษอุตสากรรมของขวัญทรุดฮวบ

Posts related