นายนเรศ  บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยถึงแผนการเพิ่มรายได้ให้ ขสมก.ว่า ได้ว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยเกษตรกรศาสตร์ ศึกษาการนำที่ดินที่มีศักยภาพของอู่รถ ขสมก.ไปเปิดใช้เอกชนเช่าเพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ แบบระยะยาว 20-30 ปี  เพื่อให้สร้างรายได้เพิ่มเติมจากเดิมที่ปล่อยไว้เป็นอู่รถเมล์สำหรับจอดรถเพียงอย่างเดียว โดยเบื้องต้นมีที่ดินที่มีศักยภาพ 4 แปลง ได้แก่ บางเขน มีนบุรี สวนสยาม และแสมดำ ซึ่งเริ่มเปิดให้เอกชนเข้ามาเสนอแผนได้ในปี 58 สำหรับทำเลแรกที่นำร่องมาพัฒนาได้ก่อน คือ ที่ดิน อู่ ขสมก.บางเขน ขนาด 14 ไร่ ติดริมถนนพหลโยธินใกล้วัดพระศรีมหาธาตุฯ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นทำเลทอง เพราะในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่ผ่าน รวมถึงใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี จึงน่าจะเปิดให้เอกชนมาพัฒนาเป็นศูนย์เชื่อมต่อการเดินทางรถ ขสมก. รถไฟฟ้า และการคมนาคมอื่นๆ ควบคู่ไปกับมีศูนย์การค้า และบันเทิงอยู่ด้านบนทาง ซึ่งรถ ขสมก.จะวิ่งรับส่งข้างในได้ แต่จะไม่ใช้เป็นอู่รถเมล์สำหรับจอดระยะยาวอีก ส่วนที่ดินมีนบุรี สวนสยาม และแสมดำ เป็นทำเลที่ไกลออกไปจะทยอยเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอมาในระยะถัดไป แต่เชื่อว่าทั้งหมดมีศักยภาพการเติบโตได้ในอนาคต เพราะอย่างมีนบุรี และสวนสยาม ก็อยู่ในเส้นทางการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-แคราย และมีแนวโน้มว่าชุมชนเมืองจะขยายตัวไปพื้นที่เหล่านั้น    “แผนการนำที่ดินของ ขสมก.ไปเปิดให้เอกชนเช่าในระยะยาว ถือเป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้เพิ่ม ซึ่งอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ และขณะนี้ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้สรุปแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าจะสร้างรายได้ให้ ขสมก.แค่ไหน เพราะหากบอกไปเอกชนสามารถนำไปคำนวณกำหนดค่าเช่าได้ ทำให้ ขสมก. ได้รับประโยชน์น้อยกว่าที่ควรเป็น” นายนเรศกล่าวต่อว่า ขสมก.ยังได้พัฒนาบริการการเดินรถ  เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนมาใช้บริการสร้างรายได้แก่องค์กรเพิ่ม ซึ่งนอกจากการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 3,183 คันที่จะทยอยเข้ามาให้บริการได้ในต้นปีแล้ว ในส่วนของรถเมล์เก่าจะมีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น  โดยตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป จะมีการเปิดให้เล่นไวไฟ ฟรี บนรถปรับอากาศยูโร 2 จำนวน 1,500 คัน  รวมถึงมีการปรับปรุงป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ภายในรถให้เป็นมาตรฐานสากล เช่น ป้ายสำหรับพระภิกษุ การติดตั้งแผนที่บอกเส้นทางการเดินรถเมล์สายต่างๆ ภายในรถ ให้เหมือนกับรถไฟฟ้า  ตลอดจนการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์  โลโก้ ขสมก. และสีตัวรถใหม่ให้ทันสมัย ซึ่งขณะนี้กำลังจัดโครงการร่วมประกวดอยู่ นอกจากนี้ ขสมก.ยังมีการสร้างรายได้จากแหล่งอื่น เช่น การโฆษณาบนตัวรถ โครงการครอบครัวสุขสันต์กับบริการ ขสมก. ด้วยการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวในเขตจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการไปแล้ว 26 เส้นทาง และได้รับผลตอบรับดีมาก มีผู้ใช้บริการปีหนึ่งมากกว่า 80,000 คน    “แผนการเพิ่มรายได้ ขสมก. ไม่ได้มองเรื่องกำไรเป็นหลัก แต่ดูเรื่องการให้บริการสาธารณะก่อน เพราะฉะนั้นจึงหวังแค่ทำให้องค์กรเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นภาระภาครัฐ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นที่พึ่งพิงให้ผู้มีรายได้น้อยได้ด้วย ดังนั้น ขสมก.จะยังเก็บค่าโดยสารถูกกว่าเอกชนอยู่ ซึ่งปัจจุบันเก็บค่าโดยสารต่ำกว่ารถร่วมฯ  โดยรถร้อนเก็บถูกกว่า 1.50 บาท และรถแอร์ต่างจากรถร่วมฯ 2 บาท”    

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ขสมก.ขนที่ดินให้เอกชนเซ้งยาว 30 ปี

Posts related