นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ ว่า รัฐบาลเป็นต้นเหตุจากการดำเนินงาน ทั้งเรื่องการชุมนุมที่เรียกร้องเพื่อยุติ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การที่ฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความโครงการกู้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ 2 ล้านล้านบาท และกรณียื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความที่มาของสมาชิกวุฒิสภา โดยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องเร่งหาทางออกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ โครงการกู้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ 2 ล้านล้านบาท มีวิธีปกติอยู่แล้วที่จะใช้ดำเนินการ โดยไม่ต้องกู้เงินด้วยวิธีพิศดาร รวมถึง รัฐบาลยังได้ดำเนินการที่ผิดขั้นตอน เพราะโครงการขนาดใหญ่ควรจะศึกษารายละเอียดโครงการก่อนที่จะกู้เงิน ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีบางโครงการที่ไม่มีความเหมาะสม เช่น รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่ใช้ลงทุนกว่า 400,000 ล้านบาท ถือไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ แต่ควรใช้กับสิ่งที่มีประโยชน์กับประเทศมากกว่า เช่น นำเงินไปซื้อเครื่องบินแอร์บัส 320 ได้กว่า 330 ลำ ที่สามารถบินกรุงเทพ-เชียงใหม่ 3 เที่ยวต่อวัน และบรรทุกผู้โดยสาร 300,000 ราย หากเปรียบเทียบกันแลัวตั๋วเครื่องบินถูกกว่าตั๋วรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัฐบาลมีบทเรียนในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ถือเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าและไม่ได้มีประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลปัจจุบัน กำลังดำเนินการกู้เงินกว่า 2 ล้านล้านบาท ที่เป็นแนวทางเดียวกัน แต่มีวงเงินมากกว่าเดิม “ไม่เห็นว่าการใช้เงินลงทุนในงบประมาณปกติจะเป็นปัญหา เพราะที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจก็มีความสามารถในการลงทุนโครงการต่างๆ ได้ เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน การซื้อเครื่องบินของการบินไทย ที่มีความสามารถบริหารจัดการ แต่ขณะนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาคือคน เพราะคิดว่าตัวเองมีวิสัยทัศน์และพยายามหลอกให้คนอื่นเชื่อในวิสัยทัศน์ของตนเอง ทั้งที่จริงแล้วคือความโง่ ส่วนการลงทุนเอกชนที่ไม่ขยายตัวในขณะนี้ มาจากสาเหตุหลักในด้านกฎกติกาต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่เหมือนอย่างที่ รมว.คลังชอบพูดว่าเกิดจากความล่าช้าของโครงการกู้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ 2 ล้านล้านบาท” //////////////////

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ติงรัฐใช้เงินกู้2ล้านล้านพิสดาร

Posts related