หน้าร้อน…ถือเป็นช่วงทองสำหรับผู้ทำมาค้าขาย เพราะนอกจากเป็นช่วงที่ส่งเสริมให้สินค้าดับร้อนขายดีแล้ว ยังอยู่ในฤดูท่องเที่ยวที่เป็นช่วงวันหยุดยาวอย่างเทศกาลสงกรานต์ ที่ผู้คนจะออกมาจับจ่ายข้าวของติดไม้ติดมือกลับบ้านรับช่วงปีใหม่ไทย นอกจากนี้ยังเป็นช่วงปิดภาคเรียนทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต่างพาลูกจูงหลานกันออกมาชอปปิงฆ่าเวลาอีกด้วย  แต่ปีนี้มีความพิเศษตรงที่นอกจากความร้อนด้วยสภาพอากาศแล้ว ยังมีดีกรีของการเมืองที่ร้อนแรงเป็นแรงอัดเพิ่มเข้าไปอีกต่างหาก รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการต่างกุมขมับ เหงื่อตกกันเป็นแถว! พร้อมหาแนวทางสารพัดเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดขึ้น  ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้ประกอบการในหลาย ๆ สาขา ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทำความเย็นทั้งเครื่องปรับอากาศ พัดลม รวมไปถึงบรรดาสินค้าเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่ในช่วงหน้าร้อนทั้งเสื้อผ้าธรรมดา และชุดว่ายน้ำ ต่างต้องงัดต้องจัดแคมเปญลดแลกแจกแถม และอีกสารพัด เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดให้คนไทยยอมควักกระเป๋าเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของให้ได้  ไม่เช่นนั้น…หากปล่อยตามสภาพ เชื่อได้ว่า แรงซื้อในประเทศที่กำลังอ่อนแรง จะเป็นบ่อเกิดให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ต่างอยู่ไม่ได้เช่นกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นแคมเปญจะเห็นโปรโมชั่นสินค้าในหลาย ๆประเภทเกิดขึ้นกันเป็นจำนวนมาก  มั่นใจตลาดแอร์พุ่ง15%  สินค้าดาวเด่นในช่วงฤดูร้อน คงหนีไม่พ้นเครื่องปรับอากาศและพัดลม ที่เป็นเครื่องยนต์กลไกสำคัญเพื่อคลายร้อนของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการหลายรายต่างมั่นใจว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศมูลค่า 12,800 ล้านบาท จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 15% แม้ว่ากำลังซื้อจะลดลงก็ตาม แต่จากปรากฏการณ์เอลนินโญ่ ที่อากาศจะร้อนมากหลังผ่านช่วงอากาศหนาวเย็นกว่าปกติในปลายปีก่อน ทำให้หลายค่ายรีบงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาประชัน เริ่มต้นจากผู้ประกอบการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าเพาเวอร์บาย ที่ “สอางทิพย์ อมรฉัตร” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด ฉายภาพบรรยากาศการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ว่า ค่อนข้างดุเดือด เพราะทุกฝ่ายต้องการดึงกำลังซื้อให้กลับมา ขณะเดียวกันสภาพอากาศที่ร้อนจัด ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการมองว่าตลาดอาจเติบโตมากขึ้น จึงจัดหนักโปรโมชั่นกันชนิดที่ว่าไม่ซื้อไม่ได้แล้ว  แม้ว่าปีนี้เพาเวอร์บาย ยังคงสัดส่วนงบในการทำการตลาดเท่าเดิมที่ 1% หรือ 150-200 ล้านบาท แต่ความเข้มข้นของกิจกรรมหน้าร้อนกลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการเน้นร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งในส่วนผู้ประกอบการรายย่อยและบัตรเครดิต ด้วยข้อเสนอดึงดูดใจ ทั้งโปรโมชั่นร่วมกับผู้ที่ใช้บัตรเครดิตชำระสินค้า ด้วยการมอบคูปองพิเศษ เมื่อผ่อนชำระตามที่กำหนด หรือซื้ออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ รับฟรีคูปอง ล้างเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมผ่อนสินค้า 0% นาน 10 เดือน หรือมอบส่วนลดสูงสุดถึง 30% ด้วยซ้ำไป “ถึงแม้ลูกค้าของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจน้อย แต่ก็ยังเดินหน้าอัดแคมเปญ เพื่อเรียกกำลังซื้อเพราะมองว่าโอกาสในการขายปีนี้มีสูง จากอากาศที่ร้อนมาก เชื่อว่ายอดขายเครื่องปรับอากาศจะเติบโตได้ถึง 30-40% เท่ากับปีอื่น ๆ ที่อากาศร้อน ส่วนพัดลมก็มีแนวโน้มค่อนข้างดี เพราะคนต้องการประหยัดไฟ จึงนิยมซื้อพัดลมไปเปิดเสริมกับเครื่องปรับอากาศ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเติบโตได้มากกว่าปกติ ขณะที่ตู้เย็น สินค้าที่คนนิยมเปลี่ยนในช่วงหน้าร้อนน่าจะเติบโตได้ 20-30%” สำหรับเจ้าตลาดอย่างมิตซูบิชิ คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องปรับอากาศหน้าร้อนจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดย “อนันต์ บรรเจิดธรรม” กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มองว่า แม้อากาศจะร้อนช้าไปหน่อย แต่เชื่อว่าจะร้อนมากขึ้นและยาวนานแน่นอน ส่งผลให้ยอดขายปีนี้อาจปรับเพิ่มขึ้นถึง 70% จากเดิมเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 60% ในฤดูการขายตั้งแต่เดือน ก.พ.-มิ.ย. โดยเครื่องปรับอากาศถือเป็นสินค้าเรือธง ที่คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 60% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ตู้เย็นเป็นสินค้าขายดีเป็นอันดับสองด้วยสัดส่วนรายได้ 30% แต่ในปีนี้มองว่าคงอยู่ในระดับที่พอไปได้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจึงส่งสัญญาณเดินหน้าเต็มที่ ด้วยการอัดงบการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 10-20% เพื่อจัดแคมเปญต่าง ๆ แม้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทซึ่งอยู่ในระดับกลางถึงระดับบนจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหากำลังซื้อมากนัก แต่ก็ยืดระยะเวลาผ่อนสินค้าจาก 6 เดือน เป็น 8 อีกด้วย ขณะที่ “สมพร จันกรีนภาวงศ์” ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจเครื่องปรับอากาศ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศซัมซุง เห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องของอัตราการถือครองเครื่องปรับอากาศของคนไทยยังอยู่ในอัตราที่ต่ำประมาณ 30% เท่านั้น ทำให้ “ซัมซุง” สบโอกาสหันมาให้ความสำคัญกับการผ่อนสินค้ามากขึ้น ด้วยการให้ผ่อนสินค้า 0% นาน 24 เดือน สำหรับสินค้าที่จัดรายการหรือประมาณ 30% ของเครื่องปรับอากาศทุกรุ่น จากเดิมที่เน้นรุกออกสินค้าใหม่สร้างความเคลื่อนไหวในตลาดมากกว่า รวมไปถึงการเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่มากขึ้น  ขณะเดียวกันปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นยังไม่เป็นปัญหาต่อการขาย ซึ่งหากอ้างอิงจากตลาดแอร์ในครัวเรือนของปี 53 ที่เกิดวิกฤติทางการเมือง ตลาดยังสามารถเติบโตได้ถึง 20-30% การเมืองน่าจะกระทบกับตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์มากกว่า เพราะการบริหารงานของรัฐบาลจะชะงักทำให้ต้องชะลอแผนการลงทุนลง ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติลดลง และชะลอการลงทุนเช่นกัน ทำให้คาดว่าตลาดแอร์เชิงพาณิชย์น่าจะไม่เติบโต แป้งเย็นไม่ทิ้งขบวนชิงเค้ก หันมาที่อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย ที่อยู่คู่ชาวไทยมาเนิ่นนานอย่างแป้งเย็น “โดม เรืองสมบูรณ์” ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด ห้างหุ้นส่วนจำกัด รวมใจโปรดักส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเย็นเภสัช เล่าให้ฟังถึงแผนการบุกตลาดหน้าร้อนครั้งนี้ว่า ไม่เน้นการจัดกิจกรรมการตลาด เพราะมองว่า แป้งเย็นเป็นสินค้าราคาถูก จึงไม่ได้รับผล กระทบจากปัญหากำลังซื้อชะลอตัว แต่เน้นสร้างการรับรู้ถึงคุณสมบัติความเย็นแทน ด้วยงบการตลาด 16 ล้านบาท จัดกิจกรรม 3 เดือน พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ทางโทรทัศน์ และใช้สื่อวิทยุ เจาะลูกค้ากลุ่มต่างจังหวัดซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานในสังคมเมืองที่อยู่ในห้องแอร์ ทำให้ตลาดในกรุงเทพฯ เติบโตน้อย เมื่อเทียบกับต่างจังหวัด ส่งผลให้ตลาดแป้งเย็นช่วงหลายปีที่ผ่านมาเติบโตน้อยมากไม่ถึง 5% “แป้งเย็นเป็นสินค้าที่ขึ้นอยู่กับอากาศ ถ้าอากาศร้อนคนก็ตัดสินใจซื้อทันที แต่หากฤดูฝนมาเร็วตลาดแป้งเย็นจะไม่เติบโตเลย ขณะเดียวกันก็กังวลว่าลูกค้าต่างจังหวัดอาจจะได้รับผลกระทบจากเงินในโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รายได้บริษัทอาจจะไม่ดีอย่างที่คิด แต่แนวโน้มตลาดแป้งเย็นปีนี้มูลค่าน่าแตะที่ 2,000 ล้านบาท จากโอกาสที่น่าจะเติบโตได้ถึง 10% ถือว่ามากกว่าอัตราปกติ หากฤดูร้อนปีนี้จะยาวนานไปถึง 3 เดือน แต่เมื่ออากาศร้อนเหมือนเคยตลาดคงโตที่ 5%” ชุดว่ายน้ำ-ชุดชั้นในเพิ่มจุดขาย ส่วนอีกสินค้าที่จะมาพร้อมกับหน้าร้อนอย่าง ชุดว่ายน้ำ “ชัยเลิศ มนูญผล” รองผู้อำนวยการฝ่าย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดว่ายน้ำสปีโด ฉายภาพถึงตลาดชุดว่ายน้ำในฤดูร้อนปีนี้ ตั้งแต่เดือนก.พ.-พ.ค. ว่า ยังคึกคักเหมือนเคย เพราะเชื่อว่าสถานการณ์การเมืองในประเทศจะคลี่คลายก่อนครึ่งปีหลัง จะส่งผลดีต่อธุรกิจชุดว่ายน้ำเพราะภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตอย่างดีอีกครั้ง ขณะที่ภาพรวมตลาดชุดว่ายน้ำปีนี้คาดว่าจะเติบโตเกือบ 10% หรือเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท เพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่แนวโน้มดีขึ้น, สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน และกระแสการดูแลสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยม โดยแผนของ “สปีโด” เน้นขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อกระตุ้นรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 10% หรือเกือบ 400 ล้านบาท โดยเตรียมงบการตลาดไว้มากถึง 7-8% จากรายได้ เพิ่มจุดขายเข้าไปยังสระว่ายน้ำ, ชมรมว่ายน้ำ และโรงเรียนนานาชาติมากขึ้น รวมถึงรุกตลาดต่างจังหวัดให้มากขึ้นด้วย  สำหรับอีกทางเลือกคลายร้อน “ชุดชั้นใน” ซึ่งจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมานานหลายปี ส่งผลให้ตลาดชุดชั้นในแข่งขันทำโปรโมชั่นกันเรื่อยมา ทำให้ภาพรวมในปีนี้คงไม่หวือหวาไปกว่าทุกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ “ธรรมรัตน์ โชควัฒนา” กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในวาโก้ บอกว่า ในปีนี้คงต้องชะลอแผนการตลาดลงไปบ้าง ทั้งการจัดโปรโมชั่นลดราคา รวมถึงความถี่ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ เนื่องจากมองว่าในภาวะที่เงินในกระเป๋ามีน้อยลง แม้จะจัดกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้น ก็อาจจะไม่สามารถดึงกำลังซื้อคืนมาได้ โดยหันไปโฟกัสในด้านการบริหารสต๊อกสินค้าให้เพียงพอกับปริมาณคำสั่งซื้อ  ขณะเดียวกันการออกสินค้าใหม่ต่อจากนี้ จะเน้นสินค้าที่มีนวัตกรรม เพื่อสร้างสีสันและความแตกต่างในวงการชุดชั้นใน โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ที่พัฒนามาเพื่อช่วยระบายความเย็นแก่ผู้สวมใส่ เหมาะแก่สภาพอากาศในฤดูของไทย และยังเตรียมพัฒนาสินค้าใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 2 คอล เลกชั่นในปีนี้ เช่นเดียวกับ “อมรเทพ อสีปัญญา” ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในซาบีน่า ที่มองว่า ตลาดชุดชั้นในมูลค่า 12,000 ล้านบาท อาจไม่เติบโตไปกว่านี้ จึงต้องรีบปรับแผนชะลอการออกสินค้าใหม่ เพราะว่ายังกังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศอยู่ ขณะที่การทำโปรโมชั่นต้องวางแผนมากขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น สำหรับรายได้ปีที่ผ่านมาเติบโต 10% สิ้นปีนี้ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขการเติบโตได้ ’ภาพรวมตลาดชั้นในในอนาคตยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เพราะคนไทยไม่ได้เน้นการใส่ชุดชั้นในตามประเภทการใช้งาน แต่จะเน้นรูปแบบ และฟังก์ชันการใช้งานที่ดึงดูด เช่น ชุดชั้นในกระชับอก เสริมอกมากกว่า” ศูนย์การค้าแข่งสร้างสีสัน มาดูฝั่งห้างค้าปลีก… ที่เป็นประจำทุกปีกับการจัดกิจกรรมรับลมร้อน เริ่มจากค่ายยักษ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ที่ควัก 50 ล้านผนึกกับพันธมิตรซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นกว่า 65 แบรนด์ นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บอกว่า ได้ส่งแคมเปญซีพีเอ็น ซัมเมอร์ นาว 2014 ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญใหญ่ประจำปี เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าช่วงหน้าร้อนใน 7 สาขาหลักทุกหัวเมือง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระรามเก้า เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ “หลังจากในปีที่แล้วแคมเปญซัมเมอร์ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีจำนวนลูกค้าหมุนเวียนในศูนย์กว่า 1.7 ล้านคนต่อวัน ส่วนปีนี้คาดว่าจะเพิ่มลูกค้าเข้ามาขึ้นกว่า 10-15% และสร้างยอดขายให้กับแบรนด์แฟชั่นในศูนย์ปรับขึ้นอีก 20%” ส่วน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สร้างสีสันรับร้อน โดยทุ่มงบกว่า 65 ล้านบาท ขนคอลเลกชั่นต้อนรับซีซั่นใหม่ในแคมเปญ โรบินสัน ซัมเมอร์ 2014 นำเสื้อผ้า และเครื่องประดับจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำกว่า 500 แบรนด์ พร้อมมอบความพิเศษด้วยโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 50 % และมั่นใจตลอดแคมเปญจะกระตุ้นเติบโตกว่า 10% หรือมียอดขาย 1,500 ล้านบาท  ในขณะที่ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์ การค้าเดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ได้นำร่องจัดแคมเปญ มิดไนท์ เซล ไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.–2 เม.ย. 2557 เน้นความคุ้มค่าด้วยโปรโมชั่นพิเศษ บาย 2 เซฟ มอร์ ซื้อเยอะคุ้มค่ากว่า  “ชำนาญ เมธปรีชากุล” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บอกว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การเสนอแคมเปญทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการขายและให้เข้ากับสภาพการณ์ของลูกค้าในช่วงปัจจุบันที่มีความระมัดระวัง และต้องการความคุ้มค่าในการใช้จ่าย ขณะเดียวกันในด้านธุรกิจ การเร่งสร้างยอดขายคือสิ่งสำคัญในช่วงการเริ่มต้นไตรมาสที่ 2 จึงหาแนวทางการทำแคมเปญที่สามารถตอบโจทย์ได้โดนใจลูกค้าให้มากขึ้น หันมาให้ความสำคัญกับสินค้าและราคา มากกว่าให้ความสำคัญกับการสร้างอารมณ์เพื่อกระตุ้นยอดขาย ตามที่เคยปฏิบัติในช่วงซัมเมอร์ของทุกปี  สำหรับห้างค้าปลีกคู่พันธมิตรอย่าง สยามพิวรรธน์ รวมพลัง 4 ศูนย์ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และพาราไดซ์ พาร์ค “มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ให้รายละเอียดไว้ว่า เดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทรวมพลัง 4 ศูนย์การค้า จัดแคมเปญรวมและแคมเปญเฉพาะแต่ละศูนย์ เพื่อจัดกิจกรรมโปรโมชั่นให้ร้านค้าภายในศูนย์ที่มีอยู่มากกว่า 500 ร้านค้าที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของกลุ่มลูกค้าในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือหน้าร้อน และเทศกาลสงกรานต์ “เริ่มด้วยโปรโมชั่นในแคมเปญ สยาม สเปคตาคูลาร์ ซัมเมอร์ คัลเลอร์ฟูล แซมบ้า ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 พ.ค.นี้ใน 3 ศูนย์การค้าใจกลางเมือง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อต้อนรับบรรยากาศตลอดหน้าร้อน ได้แก่ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่คนทั่วโลกจะมุ่งตรงสู่ประเทศไทย และกระแสการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศบราซิล ในกลางปีนี้ โดยได้เตรียมจัดรายการส่งเสริมการขายที่มีรางวัลพิเศษจำนวนมาก” นอกจากนี้ศูนย์การค้าสยามพารากอนยังได้ผนึกกำลังร่วมกับร้านค้าและผู้เช่าในทุกกลุ่มสินค้า ตลอดจนพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจ จัดแคมเปญโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า อาทิ สินค้ากลุ่มแฟชั่นลักชัวรี่แบรนด์ดังระดับเวิลด์คลาสได้มีการจัดรายการโปรโมชั่น สยามพารากอน แฟชั่นฟอร์เวิร์ด ซัมเมอร์เดสติเนชั่น 2014 ตั้งแต่วันนี้–16 เม.ย.นี้ โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทั่วไป และสมาชิกบัตรแพลทินัม เอ็ม การ์ด ผู้มียอดซื้อสินค้าสูงสุดจากร้านค้าแฟชั่นทุกร้านภายในศูนย์รับบัตรกำนัลห้องพักจากโรงแรมคอนราด เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นต้น ด้านศูนย์การค้าน้องใหม่ พาราไดซ์ พาร์ค จัดแคมเปญ พาราไดซ์ พาร์ค ซัมเมอร์ สปิริต ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 พ.ค.นี้ ร่วมกับร้านค้ากระหน่ำลดราคาถึง 80% คาดว่าจะเพิ่มลูกค้าทั้งคนไทย และต่างชาติภายในศูนย์เพิ่มขึ้นอีก 20% จากปัจจุบันทั้ง 3 ศูนย์ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อศูนย์เฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อวันสำหรับวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาเฉลี่ย 1 แสนคนต่อวัน  แม้ว่าบรรดาผู้ประกอบการต่างกระตุ้นตลาดในเรื่องของค้าปลีก เพื่อแย่งชิงเงินสะพัด ที่คาดกันว่าในภาพรวมของค้าปลีกในช่วงหน้าร้อนนี้จะมีเงินสะพัดถึง 20,000 ล้านบาท แต่… ก็เป็นที่น่าสนใจว่า สารพัดแคมเปญ สารพัดโปรโมชั่น ที่งัดกันออกมาแย่งชิงเค้กก่อนนี้ จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้คนไทย ’อยากชอปปิง” ได้มากน้อยเพียงใด!. พิชชาพร อยู่เลี้ยงพันธ์

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สินค้าหน้าร้อนชิงอัดแคมเปญ ตะลุยเปิดศึกหวังยอดขายเพิ่ม

Posts related