ขณะที่สายการบินต้นทุนต่ำยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซียกำลังมาลงทุนในไทย ในส่วนของรัฐบาลเองโดยกระทรวงการค้าก็จัดงานเทรด เอ็กซ์โป อินโดนีเซียครั้งที่ 28 เพื่อนำเสนอสินค้าส่งออกให้ประเทศคู่ค้าได้มีโอกาสมาเลือกสรรและเจรจาธุรกิจ ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ประเทศคู่ค้าที่มีการติดต่อค้าขายส่งออกกับอินโดนีเซียมากที่สุด ใครจะคิดว่าเป็นไนจีเรีย ก่อนจะตามมาด้วยเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา บังกลาเทศ แอฟริกาใต้ ฯลฯ สินค้าที่อยู่อันดับหนึ่งในตลาดโลกของอินโดนีเซียก็คือ เครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไผ่และหวาย โดยมีส่วนแบ่งในตลาดโลกถึงร้อยละ 54.26 ขณะที่มาร์การีนซึ่งอยู่อันดับหนึ่งในตลาดโลกแม้จะแชร์ส่วนแบ่งได้เพียงร้อยละ 13.09 แต่มูลค่าการส่งออกมากกว่า แต่ยางพาราที่ติดอันดับผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลกกลับเป็นสินค้าที่ทำรายได้เข้าประเทศมากที่สุด ทั้งที่แชร์ส่วนแบ่งการตลาดเพียงร้อยละ 30.47 สำหรับในปี ค.ศ. 2013 นี้รัฐบาลอินโดนีเซียยังคงนำเสนอสินค้าแถวหน้าไม่ว่าจะเป็นปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปาล์มดิบ เมล็ดกาแฟและโกโก้ อาหารทะเลแช่แข็ง ยางพารา และเครื่องเทศ ขณะที่สินค้าประเภทอุตสาหกรรมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า จิวเวลรี่ เคมีภัณฑ์ และเสื้อผ้านั้น เป็นสินค้าที่รัฐบาลอินโดนีเซียพยายามที่จะผลักดันให้ขึ้นมาให้เทียบเท่าสินค้าด้านเกษตร แต่ใช่ว่าสินค้าเกษตรจะถูกทอดทิ้งเพราะรายได้ที่ด้อยกว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังพยายามนำเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่ล้ำสมัยมาช่วยเพิ่มคุณภาพของสินค้า เพื่อให้ก้าวขึ้นไปสู่ระดับมาตรฐานสากลมากขึ้น เพราะความที่ตั้งอยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร ทั้งยังมีดินที่เกิดจากภูเขาไฟ ร่ำรวยไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และยังมีน้ำจากฝนให้ใช้อย่างเหลือเฟือตลอดทั้งปี หากเสริมด้วยระบบฟาร์มและการควบคุมที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบ ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรที่มีอยู่ได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับความพยายามที่จะพัฒนาสินค้าทางด้านอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น พร้อมดึงดูดผู้ซื้อด้วยโปรโมชั่นลงทะเบียนเข้าร่วมงานเทรด เอ็กซ์โปแบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แถมด้วยห้องพัก 2 คืน รถรับส่งฟรีทั้งจากสนามบินและเข้าสู่สถานที่จัดงาน แม้ว่าจาการ์ตาจะมีปัญหารถติดอยู่บ้าง แต่ความพยายามอย่างเป็นระบบนี้ก็ทำให้อินโดนีเซียตีตื้นขึ้นมาเป็นผู้นำได้ไม่ยาก.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อินโดฯ เทรด เอ็กซ์โป – ลูกเล่น/ลีลา

Posts related