นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า  ได้ให้สำนักแผนภาษีศึกษารายละเอียดว่าสามารถที่จะจัดเก็บภาษีจากการดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นต่างๆ ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้หรือไม่   เนื่องจากในปัจจุบันมีการซื้อขายบนเครือข่าย ออนไลน์  เป็นจำนวนมาก  แต่กรมฯ ยังไม่สามารถตามเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากธุรกรรมซื้อขายนี้ได้ แม้ว่ากฎหมายของกรมสรรพากรจะระบุว่า  หากมีการซื้อขายสินค้าหรือบริการต้องเสียภาษีที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาษีแวต และ ภาษีเงินได้  เป็นต้น  เนื่องจากผู้ให้บริการอยู่ในต่างประเทศ “การจะจัดเก็บภาษีดัง กล่าวได้นั้น  ต้องศึกษาว่าในต่างประเทศมีการจัดเก็บอย่างไร เช่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น  เพราะผู้ขายบางรายไม่ได้ตั้งบริษัทในไทย  โดยเห็นว่าจะต้องผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือในเวทีประชุมนานาชาติ  เช่น ในการประชุมด้านภาษีของอธิบดีสรรพากรของประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิค ที่มีสมาชิกกว่า 16 ประเทศ  หรือจะนำอนุสัญญาภาษีซ้อนที่ไทยได้ทำข้อตกลงกับประเทศสมาชิก  55 ประเทศ เข้ามาเป็นเครื่องมือในการช่วยจัดเก็บภาษีจากการดาวโหลดแอพพลิเคชั่น” ทั้งนี้ยอมรับว่าการค้าขายหรือการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา   ซึ่งกรมฯ ต้องปรับปรุงแนวทางการจัดเก็บภาษีให้ทันกับสถานการณ์  โดยล่าสุดได้พัฒนาการเสียภาษีผ่านแอพพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟน ทำให้ประชาชนสามารถยื่นแบบและการชำระภาษีผ่านมือถือได้   คาดว่าจะช่วยให้ผู้เสียภาษีได้รับความสะดวกมากขึ้น  นอกจากนี้มีแผนปรับโฉมสำนักงานสรรพากรทั่วประเทศให้มีความทันสมัยมากขึ้น นายพีรพัฒน์ โปษยานนท์ ที่ปรึกษาด้านภาษี บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า   การชำระเงินการซื้อขาย แอพพลิเคชั่น ที่ดาวน์โหลดบนอินเตอร์เน็ตในขณะนี้จะหักผ่านระบบธนาคาร หรือหักจากบัตรเครดิต ให้กับผู้ขายที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศ ให้ส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศที่เกิดธุรกรรมซื้อขาย  ดัง นั้นเห็นว่าการเก็บภาษีดังกล่าวคงทำได้ยาก เนื่องจากต้องประเมินมูลค่าการดาวน์โหลด  จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานกลางเข้ามาดูและหากรัฐจะทำจริงต้องศึกษารายละเอียด อย่างรอบคอบ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เล็งรีดภาษีซื้อขายผ่านแอพพลิเคชั่น

Posts related