นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท เป่ยต้าฮวง ซึ่งเป็นรัฐวิสหกิจของจีน แห่งเมืองฮาบิน มณฑลเห่อ หลง เจียง กำลังเตรียมเอกชนรับรองการเป็นรัฐวิสาหกิจของบริษัทให้สมบูรณ์ ก่อนเดินทางมาร่วมลงนามสัญญาซื้อข้าวจากไทยปริมาณ 1.2 ล้านตัน คาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จภายใน ต้นพ.ย.นี้ หลังจากที่กำหนดการเดิมจะลงนามภายในต.ค.นี้ แต่พบว่าบริษัทฯยังจัดทำเอกสารไม่ครบถ้วน ทำให้รัฐบาลไทยต้องขอให้ดำเนินการให้สมบูรณ์ จึงเป็นเหตุทำให้กำหนดลงล่าช้าออกไป “สาระสำคัญในสัญญาได้ข้อสรุปแล้ว คือ ซื้อข้าวขาวปริมาณ 1.2 ล้านตันจากไทย ในราคาตลาด แบบยกหน้าคลัง (เอ็กแวร์เฮ้าส์) ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าราคาตลาดที่ส่วนใหญ่โคดราคา ณ ท่าเรือกรุงเทพ (เอฟโอบี) โดยรัฐวิสาหกิจจีน จะว่าจ้างบริษัทเอกชน ซึ่งอาจเป็นรายใดก็ได้ มาเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพ รับมอบ และปรับปรุงสภาพ ก่อนขนส่งให้ถึงที่หมายในประเทศจีนต่อไป” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ในการเดินทางเยือนประเทศจีน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นกำหนดการโรดโชว์ของรัฐมนตรีกระทรวงการค้าในอาเซียน ตนได้มีโอกาสหารือกับผู้แทนภาครัฐของจีน ซึ่งยังแสดงท่าทีสนใจซื้อสินค้าเกษตรจากไทย ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ขณะเดียวกันก็สนใจการลงทุนรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนจากเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วย โดยรัฐบาลจีนได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อหารือกันในรายละเอียดการนำสินค้าเกษตร แลกกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะกำหนดเดินทางมาไทยเร็ว ๆ นี้ ก่อนที่ฝ่ายไทยจะเดินทางเยือนจีน กลาง พ.ย. นี้ เพื่อหาข้อสรุปในระดับนโยบายต่อไป และคาดว่าน่าจะมีผลทางปฎิบัติได้ก่อนสิ้นปีนี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “นิวัฒน์ธำรง” แจงเหตุสัญญาซื้อข้าวล่าช้า

Posts related