นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกุงเทพฯ (ขสมก.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 3,183 คัน ว่าขสมก.จะเริ่มเปิดขายซองประกวดราคาภายในสิ้นเดือนส.ค. นี้และเปิดประมูลด้วยระบบอีเล็กทรอนิกส์ หาผู้ชนะได้ในปลายเดือนก.ย.หรือต้นเดือนต.ค.หลังจากนั้นจะเริ่มทยอยส่งรถเมล์เอ็นจีวีรอบแรก 489 คัน ซึ่งเป็นรถปรับอากาศแบบชานต่ำได้ในเดือนม.ค.58 เป็นของขวัญประชาชนรับปีใหม่ ส่วนรถที่เหลือขสมก.จะทยอยรับมอบเดือนเม.ย. ได้อีกเดือนละ 300 คัน ไปจนครบ 3,183 คัน“ขณะนี้เปิดรับฟังความเห็นขอเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำทีโออาร์ไปการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีครั้งที่ 11และ12ไปแล้ว. หลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการขายซองประมูล และเปิดให้ผู้สนใจแต่ละรายนำรถตันแบบมาทดสอบทางเทคนิคเป็นเวลา3วัน หากผ่านการทดสอบถึงจะมาร่วมเสนอราคาได้ส่วนราคาประมูลจะต้องต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้คือ รถเมล์ธรรมดาไม่เกินคันละ 3.8 ล้านบาท และรถปรับอากาศไม่เกินคันละ 4.5 ล้านบาท และยืนยันว่า แม้จะได้การจัดหารถใหม่มาแต่ ขสมก.จะไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารแต่อย่างใด ในทางกลับกันจะช่วยใหั ขสมก.ตรึงค่าโดยสาร ช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ได้นานขึ้นด้วย”นายนเรศกล่าวว่ากรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าการทำทีโออาร์ไม่ได้กำหนดให้ผู้ชนะประมูลจะต้องจ่ายเงินค่าปรับหากไม่สามารถส่งมอบรถได้ตามเวลานั้นไม่เป็นความจริง โดยขสมก. ได้วางทีโออาร์อย่างรอบคอบหากส่งมอบไม่ทันจะโดนปรับแน่นอน ดังนั้นขอเตือนว่าหากบริษัทใดไม่มีความพร้อมก็ไม่ควรเข้ามาร่วมประมูลเพราะจะไม่คุ้มค่าปรับอีกทั้งในส่วนมาตรฐานยังได้กำหนดระยะรับประกันคุณภาพรถถึง 3 ปี หากในระหว่างนั้นเกิดรถเสียจนไม่สามารถวิ่งให้บริการได้บริษัทผู้จัดหารถจะต้องจ่ายค่าปรับมากถึงวันละ 10,000 บาทต่อวันด้วยทั้งนี้การได้รับมอบรถใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีนอกจากจะช่วยเพิ่มการบริการที่ดีแก่ประชาชนแล้วยังช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้มากกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท เพราะเดิมรถขสมก.ใช้น้ำมันดีเซลแต่หากเปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีจะลดต้นทุนไปถึง 2 ใน 3 ขณะเดียวกันในส่วนบริหารบุคลากรที่จะมีการนำระบบตั๋วร่วมอิเล็อกทรอนิกส์มาใช้ในรถรุ่นใหม่ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนบุคลากรได้อีกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ขสมก.มั่นใจรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรกได้ต้นปี 58

Posts related