ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ

การทำธุรกิจส่วนตัว แตกต่างจากสิ่งอื่นๆ ที่คุณทำมาตลอดชีวิตอย่างไร?

และการทำธุรกิจส่วนตัวจะให้อะไรกับชีวิตคุณ?

เราจะมาค้นหาคำตอบกันว่า การทำธุรกิจส่วนตัวส่งผลดีกับชีวิตคุณอย่างไร

การทำธุรกิจส่วนตัว เหมือนหรือต่างจากอาชีพอื่นอย่างไร

หลายต่อหลายคน คงมีข้อสงสัยว่า การทำธุรกิจมันเหมือนหรือต่าง จากการทำงานประจำ หรืออาชีพอิสระอย่างไร เราจะมาคลายข้อสงสัยนี้ ด้วยการเปรียบเทียบหา สิ่งที่ทำให้ธุรกิจเหนือกว่า และสิ่งที่ทำให้ธุรกิจด้อยกว่า ระหว่างการทำธุรกิจ กับงานทั้ง 2 อย่าง

1. ธุรกิจส่วนตัว  VS งานประจำ

ธุรกิจส่วนตัวกับงานประจำ มีความเหมือนที่ชัดเจนมากอย่างนึง นั่นคือ ถ้าคุณจะประสบความสำเร็จ คุณต้องใช้ความตั้งใจ และใส่ความพยายามเข้าไปในสิ่งที่คุณทำ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ

ไม่ว่าจะเป็นความร่ำรวย ยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือชื่อเสียง หากคุณไม่ได้ทำงานชั้นเลิศ สักแต่ว่าทำแบบส่งๆไป เช้าชามเย็นชาม สุกเอาเผากิน คุณก็จะไม่มีทางที่จะได้ผลลัพธ์ที่คณปรารถนาได้เลย

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจเหนือกว่า

  • ทำมากได้มาก: หากคุณเป็นคนที่ตั้งใจทำงานเต็มความสามารถ ธุรกิจจะทำให้คุณมีรายได้ที่มากกว่า เพราะธุรกิจทำให้เกิดกำไร ซึ่งทำมากก็ได้มาก ต่างจากรายได้ของงานประจำ ที่คุณต้องรอให้เจ้านายพิจารณาขึ้นเงินเดือนตอนปลายปี
  • ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่: การทำธุรกิจเปิดโอกาสให้คุณ แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ มีอิสระในการควบคุมชะตาชีวิตของคุณเอง ถ้าคุณเป็นพนักงาน คุณแสดงความคิดของตัวเองได้ไม่เต็มที่ เพราะจะถูกมองว่าข้ามหน้าข้ามตาเจ้านาย และงานของคุณ ก็อาจจะถูกขโมยไปเป็นงานของคนอื่นก็ได้

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจด้อยกว่า

  • รู้สึกว่าไม่มั่นคงเท่างานประจำ: คนส่วนใหญ่ที่ไม่กล้าเริ่มทำธุรกิจ เพราะรู้สึกว่ามันเสี่ยง และไม่มั่นคงเท่ากับงานประจำ แต่ที่จริงแล้ว ไม่เริ่มทำธุรกิจอะไรเลยกลับเผชิญกับความเสี่ยงที่มากกว่า เพราะการทำธุรกิจเป็นเรื่องของทักษะ ถ้าวันนึงธุรกิจคุณล้ม คุณก็ยังมีทักษะที่จะสร้างใหม่ได้ แต่คนทำงานประจำจะไม่มีทักษะนี้ หากโดนไล่ออกจากงาน ตอนอายุ 50 ก็เตรียมตัวเตะฝุ่นยาวได้เลย
  • ต้องตั้งใจและจริงจังกับมัน: การทำงานประจำนั้น คุณขี้เกียจทำงานได้ อู้งานได้ หรือทำงานไม่เต็มที่ก็ได้ แต่สำหรับธุรกิจส่วนตัว นั่นหมายถึงหายนะ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเริ่มต้น คุณต้องใส่พลังให้กับธุรกิจเกิน 100% ด้วยซ้ำ เพื่อที่จะสร้างระบบให้มันเดินได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่คุณเป็นทาสของมัน ส่วนช่วงที่อยู่ตัวแล้ว คุณก็ยังต้องดูแลความเป็นไปอย่างห่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่เจ๊ง หรือโดนโกง

2. ธุรกิจส่วนตัว VS อาชีพอิสระ

เรื่องความตั้งใจจริง และความพยายามมันเด่นชัดอยู่แล้ว ว่าเป็นจุดร่วมของธุรกิจส่วนตัว และอาชีพอิสระ ถ้าคุณทำอาชีพอิสระ แล้วยังไม่ตั้งใจทำงานของคุณให้ออกมาดีที่สุด ก็คงจะไม่มีใครอยากจ้างคุณอย่างแน่นอน

แต่ยังมีสิ่งอื่นที่ธุรกิจ และอาชีพอิสระเหมือนกันอีก นั่นคือ ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ หรือช่วงที่ยังสร้างระบบการทำงานไม่เสร็จนั้น ถ้าเราหยุดทำงาน รายได้ของเราก็หยุดตาม

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจเหนือกว่า

  • ธุรกิจเป็นการสร้างระบบ: เป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดที่ทำให้ธุรกิจ เหนือกว่าอาชีพอิสระ เพราะว่าอาชีพอิสระเป็นการใช้แรงงานและเวลาของคุณ แลกกับเงินรายได้ แต่ธุรกิจเป็นการสร้างระบบ เพื่อให้มันเดินได้เอง เมื่อคุณสร้างระบบสำเร็จ คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้แรงงานและเวลาของคุณ แลกกับเงินอีก เพียงแค่คุณใช้เวลาเล็กน้อยในการดูแล ควบคุมธุรกิจคุณอย่างห่างๆเท่านั้น
  • รายได้ของธุรกิจไม่ถูกจำกัดด้วยเวลา: สำหรับอาชีพอิสระ คุณไม่สามารถที่จะสร้างรายได้มากกว่าจำนวนชั่วโมงที่คุณทำในหนึ่งวัน เช่น สมมติคุณเป็นช่างภาพ และคิดค่าถ่ายภาพ วันละ 5,000 บาท ก็เท่ากับว่ารายได้ของคุณถูกจำกัดวันละไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของสตูดิโอ และรับจ้างถ่ายภาพทีเดียว 4 งาน ก็เท่ากับว่าคุณมีรายได้ถึงวันละ 20,000 บาท

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจด้อยกว่า

  • ความยากในการสร้างระบบ: คนส่วนใหญ่จะมองว่าทำอาชีพอิสระมันง่ายกว่า คุยกับคนน้อยกว่า ไม่ต้องลำบากจ้างคนให้มากมาย ไม่ต้องปวดหัวเรื่องคน แค่ตัวเค้าคนเดียวก็พอแล้ว แม้ระบบนั้น ยากมากที่จะสร้างขึ้นมาได้สำเร็จ แต่มันก็คุ้มที่จะทำเพราะเมือ่ไรที่มันสำเร็จ เมื่อนั้นคุณจะมีรายได้ก็จะไม่ถูกจำกัดด้วยเวลา และคุณก็สามารถเอาเวลาที่ได้คืนมา ไปทำสิ่งที่คุณรักได้อีกด้วย
  • ธุรกิจใช้เงินลงทุนที่สูงกว่า: เมื่อคุณจะสร้างระบบขึ้นมา คุณก็ต้องใช้เครื่องยนต์กลไกอะไรซักอย่าง หรือคนทำงานมาทำให้ระบบเดินได้ด้วยตัวเอง คุณต้องใช้เงินลงทุน เพื่อสร้างมันขึ้นมา และก็ต้องเตรียมเงินบางส่วนเป็นสายป่านที่ยาวพอสมควร ไว้สำหรับในกรณีฉุกเฉิน ยอดตก หรือเศรษฐกิจซบเซา เพื่อให้ธุรกิจคุณอยู่รอด ต่างจากอาชีพอิสระที่ตัวคุณ คนเดียวมีความคล่องตัวกว่า

สิ่งที่ การทำธุรกิจส่วนตัว จะให้กับคุณ

หลังจากที่เห็นภาพกว้างแล้วว่า การทำธุรกิจส่วนตัวมีความเหมือน และความแตกต่างจาก การทำงานประจำ และอาชีพอิสระอย่างไร เราจะมาดูกันว่า การทำธุรกิจส่วนตัวจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น ได้อย่างไร

1. ความร่ำรวย

“If hard work made you rich – the slaves would have been the richest.”
Anonymous

“ถ้าการทำงานหนักทำให้คุณรวย ทาสคงรวยที่สุดไปแล้ว” นิรนาม

คุณอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ขยันผิดที่ 10 ปี ก็ไม่รวย” ซึ่งเป็นข้อความที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ วันนี้ถ้าคุณเลือกเครื่องมือที่ไม่ถูกต้อง คุณก็ไม่มีทางที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวคุณเองได้

โดยเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างความมั่งคั่งก็คือ การทำธุรกิจส่วนตัว นั่นเอง เพราะรายได้ของคุณจะไม่ถูกจำกัดด้วยเวลา เหมือนกับอาชีพอิสระ และไม่ถูกเจ้านายขโมยผลงาน หรือแย่งซีน เหมือนกับงานประจำ

2. เวลา

“Time is money.”
Benjamin Franklin

“เวลาเป็นเงินเป็นทอง” เป็นคำพูดของ Benjamin Franklin รัฐบุุรุษ และหนึ่งในแกนนำผู้ก่อตั้ง ประเทศสหรัฐอเมริกา

หลังจากที่คุณสร้างระบบของธุรกิจคุณได้สำเร็จ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคุณจะไม่มีความจำเป็นต้องตื่นเช้าขึ้นมาทำงานทุกวันอีก  เพราะระบบที่คุณสร้างไว้จะทำงานแทนคุณ

หน้าที่ของคุณก็เพียงแต่ดูแลมันอย่างห่างๆ เหมือนกับชื่อของหนังสือเล่มหนึ่งที่แต่งโดย Timothy Ferriss นักธุรกิจชาวอเมริกัน นั่นคือ 4-Hour Workweek หรือ อาทิตย์นึงทำงานแค่ 4 ชั่วโมง คุณจะมีเวลาไปดูแลคนที่คุณรัก ดูแลสุขภาพ และออกกำลังกาย

3. ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ

“Happiness is not something ready made. It comes from your own actions.”
Dalai Lama

“ความสุขไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นมาได้เอง คุณต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง” เป็นคำพูดของ Dalai Lama ชาวพุทธ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต

มันไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณไม่ได้ทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว คุณจะไม่มีความสุข ความสุขนั้นเป็นเรื่องของจิตใจไม่ใช่วัตถุ แม้คุณจะไม่ได้ร่ำรวยก็สามารถมีความสุขได้ แต่ถ้าคุณทำธุรกิจส่วนตัว สิ่งที่คุณจะได้รับนั้นเหนือกว่า เพราะคุณสามารถที่จะทำในสิ่งที่คุณรักได้

แม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็ตาม คุณก็ทำมันได้ เพราะคุณมีเวลาเหลือเฟือ โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่องปากท้อง เช่น ถ้าคุณชอบวาดรูป ธุรกิจจะทำให้คุณมีเงินมากพอที่จะ ทำมันได้โดยไม่ต้องหวังผลในเชิงพาณิชย์ อย่างสบายๆ

4. ไร้กังวล

“I never worry about action, but only inaction.”
Sir Winston Churchill

“ผมไม่เคยกังวลกับการลงมือทำ แต่กังวลกับการนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยมากกว่า” เป็นคำพูดของ Sir Winston Churchill รัฐบุรุษ และนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ

เมื่อคุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ นี่ก็เป็นสิ่งที่คุณจะได้รับเหมือนกับการประสบความสำเร็จด้านอื่นๆ คุณจะมีความเคารพในตัวเอามากขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ ความกังวลทั้งหลายในชีวิตคุณก็จะลดลง รวมทั้งของคนรอบข้างคุณด้วย

พ่อแม่ของคุณจะได้เป็นห่วงคุณน้อยลง และคุณจะไม่ต้องมาวิตกกังวลว่า คุณจะตกงานหรือเปล่าในบั้นปลายชีวิต ถ้าเกษียณแล้วเงินไม่พอใช้จะทำอย่างไรดี หรือว่าถ้าป่วยจะทำอย่างไรให้มีเงินใช้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธุรกิจตอบโจทย์ได้

5. ได้ช่วยเหลือคนอื่น

“A business that makes nothing but money is a poor business.”
Henry Ford

“ธุรกิจที่จ้องแต่จะหาเงิน แล้วไม่สร้างอะไรอย่างอื่นขึ้นมาเลย เป็นธุรกิจชั้นเลว” เป็นคำพูดของ Henry Ford นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ก่อตั้ง Ford Motor ชาวอเมริกัน

สิ่งที่เด่นชัดคือ เมื่อคุณร่ำรวย มีรายได้มากกว่ารายจ่าย คุณก็สามารถเผื่อแผ่ให้กับคนอื่นได้ ทำให้คนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป้นพ่อแม่ หรือครอบครัว ได้รับความสะดวกสบายสบาย และมีความสุข

แต่มันมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน นั่นคือ การทำธุรกิจส่วนตัว จะได้ช่วยเพื่อนมนุษย์อีกมากมาย ผ่านการสร้างงาน ทำให้คนอื่นมีงานทำ มีเงินใช้ และมีโอกาสทำให้ครอบครัวเค้ามีความสุข เช่นกัน

Posts related