ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?

ทำไมต้องเป็น ธุรกิจซักอบรีด

เนื่องจากสังคมเมืองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในประเทศไทย ทำให้ความเจริญกระจายตัว ไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ หรือหัวเมืองเล็กๆ ที่มีมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะมีนิสิต นักศึกษา เข้ามาเรียน อยู่สัก 4-5 ปี แล้วก็อาจจะกลับบ้านเกิด หรือย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป

สังคมเมืองนั้น ทำให้ประชากรในวัยทำงาน มีงานที่ดีขึ้น รายได้ที่มากขึ้น รวมไปถึงพวกนักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับการศึกษาดีขึ้น และทั่วถึง มากกว่าเมื่อ 40-50 ปีก่อน แต่สิ่งที่คนเหล่านี้ ต้องแลกมานั่นคือ เวลาที่จะมีให้กับ ตัวเอง หรือครอบครัวของตน

ซึ่งทำให้ธุรกิจบางอย่าง บางอุตสาหกรรม เสียประโยชน์ และบางบริษัทต้องปิดตัวลงไป อย่างโชห่วย ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบ เป็นอย่างมาก จากการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่สังคมเมือง แต่เมื่อมีบางคนเสียประโยชน์ ก็ต้องมีบางคนที่ได้ประโยชน์

อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ จากสังคมเมือง อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และขยายตัวอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมหนึ่ง คือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจซักอบรีด เพราะความร่งรีบที่เกิดขึ้น ในชีวิตประจำวันของวัยทำงาน และหอพักที่อยู่อย่างชั่วคราว แค่ไม่กี่ปี ของนักศึกษา

เลยทำให้การซื้อเครื่องซักผ้า มาซักเสื้อผ้าเอง ดูจะเป็นทางเลือก ที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย การจ้างร้านซักแห้ง หรือใช้บริการเครื่องซักผ้า หยอดเหรียญ ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เจ๋งกว่า ประหยัดกว่า และชาญฉลาดกว่า จึงทำให้ธุรกิจซักอบรีด เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ และเติบโตได้อย่างยั่งยืน แน่นอน

รูปแบบของธุรกิจซักอบรีด

1. ซักรีดทั่วไป อย่างง่ายๆ

ร้านแบบนี้ ก็คือ ร้านซักรีด ธรรมดา แบบตัวละ 3-5 บาท ก็แค่ซัก อบ หรือตาก แล้วก็รีดเรียบธรรมดา  ไม่มีการใช้เครื่องไม้เครื่องมือพิเศษ หรือการถนอมเนื้อผ้าแต่อย่างใด เปิดได้ง่ายมาก ใช้พนักงานน้อย ไม่จำเป็นต้องมีฝีมือมาก แค่รีดผ้าได้เรียบ ก็พอแล้ว

2. เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

รูปแบบนี้ ง่ายกว่ารูปแบบแรก เป็นอย่างมาก ใช้เงินทุนเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องใช้คนดูแล อย่างใกล้ชิดด้วย เพราะแค่ซื้อเครื่องซักผ้า และติดเครื่องหยอดเหรียญ แล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ แค่นี้ ก็ทำเงินได้แล้ว อย่างสบายๆ

3. ซักอบรีดเต็มรูปแบบ

ร้านซักอบรีด แบบเต็มรูปแบบ คือ ร้านซักอบรีด แบบธรรมดา ที่มีการใส่สารอย่างอื่นเพิ่มเติม ในการซัก เช่น Wax ซิลิโคน หรือสารอื่นๆ ที่ใส่เพื่อถนอมเนื้อผ้า หรือทำให้ผ้าเรียบขึ้น เสื้อผ้าได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ใช่แค่เพียงสะอาดอย่างเดียว ค่าบริการจึงสูงกว่าแบบแรกมาก อาจสูงถึงตัวละ 100 บาท ในร้านซักแห้งบางร้าน เลยทีเดียว

4. ซักอบรีด แบบแฟรนไชส์

ร้านซักอบรีด แบบแฟรนไชส์ เหมาะสำหรับ คนที่อยากทำธุรกิจซักอบรีด แต่ไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในธุรกิจนี้ แต่มีเงินทุนค่อนข้างมาก และรักที่จะทำธุรกิจนี้ จึงเลือกที่จะซื้อแฟรนไชส์ และทำธุรกิจแบบสำเร็จรูป อาจจะเป็นธุรกิจในรูปแบบแรก หรือแบบที่ 3 ก็ได้

จุดเด่นของธุรกิจซักอบรีด


1. ความต้องการสูงมาก ในย่านชุมชน หรือหอพัก

อย่างที่เคยกล่าวไปข้างต้น ว่าในสังคมเมือง คนส่วนใหญ่ ไม่มีแม้แต่เวลาจะทำอาหารกินเอง เพราะฉะนั้น แม้แต่เวลาซักผ้า ก็ยังจัดเวลามาทำ ได้ยากเช่นเดียวกัน เพียงแต่การเปิดแข่งขันกัน หลายๆ เจ้า อาจจะได้กำไรไม่มาก แต่ก็ไม่เจ๊งเช่นเดียวกัน

2. เริ่มต้นได้ง่าย

ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจแบบ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ มันง่ายมากสำหรับ ผู้ที่ไม่มีความรู้ เกี่ยวกับธุรกิจซักอบรีด หรือแม้แต่ธุรกิจอื่นๆ ก็ตาม เพียงแค่นำเครื่องไปตั้ง และให้คนไปดูบ่อยๆ เพื่อเก็บเหรียญที่ได้ แค่นี้ธุรกิจก็เดินได้แล้ว

3.ใช้เงินลงทุนน้อย

สำหรับเครื่องซักผ้า แบบหยอดเหรียญ หรือแม้แต่ร้านซักรีด แบบง่ายๆ ก็ใช้เงินลงทุนไม่มาก เพียงแค่ เครื่องซักผ้า เตารีด และอุปกรณ์ตกแต่ง อีกนิดหน่อยเท่านั้น อาจจะใช้เงินลงทุน ในเบื้องต้น ตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท เท่านั้น

ปัจจัยสู่ความสำเร็จของ ธุรกิจซักอบรีด

1. ทำเล

“Location is the key to most businesses, and the entrepreneurs typically build their reputation at a particular spot.”
Phyllis Schlafly

“ทำเลเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ และผู้ประกอบการก็ควรที่จะสร้างชื่อเสียง ในด้านใดด้านหนึ่งเช่นกัน” เป็นคำพูดของ Phyllis Schlafly นักกฎหมายมหาชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ชาวอเมริกัน

มันคงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าคุณต้อง ตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ในหมู่บ้านที่มีเพียง 100 หลังคาเรือน ไม่มีคนเดินผ่าน นอกจากจะไม่มีคนใช้บริการแล้ว ยังมีแนวโน้มจะโดนขโมยเครื่องอีกต่างหาก ฉะนั้นทำเล จึงมีความสำคัญ  แต่อย่าลืมว่า ค่าเช่าที่คุณต้องจ่ายนั้น ต้องคุ้มกับทำเลที่ได้ด้วย ถ้าทำเลดีแต่ค่าเช่าแพง จนคุณต้องขาดทุน ก็คงจะไม่ดีแน่

2. คุณภาพของการบริการ

“Service to others is the rent you pay for your room here on earth.”
Muhammad Ali

การบริการและช่วยเหลือผู้อื่น เป็นดั่งค่าเช่าห้องที่คุณจ่าย เพื่อพักอาศัยอยู่บนโลกใบนี้” เป็นคำพูดของ Muhammad Ali แชมป์เปี้ยนรุ่น Heavy Weight และนักชกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ชาวอเมริกัน

ในฐานะที่ธุรกิจซักอบรีด เป็นธุรกิจบริการประเภทหนึ่ง ฉะนั้นคุณภาพของการบริการจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบ่งบอกว่า ธุรกิจจะไปรอดหรือไม่ ถ้าพนักงานสามารถทำให้ลูกค้าชอบในบริการได้ เสื้อผ้าที่นำมาให้ซัก ไม่พัง ไม่เสียหาย

โอกาสที่ลูกค้าจะบอกต่อให้กับ เพื่อนฝูงญาติพี่น้องย่อมมีมาก และธุรกิจจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกมากมาย แต่ในทางกลับกัน หากพนักงานบริการไม่ดี ลูกค้ารู้สึกว่าบริการที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับ เงินที่จ่ายออกไป ก็คงจะไปบ่นและไปบอกต่อในเรื่องแย่ๆที่เจอ เช่นเดียวกัน

Posts related