ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?

ทำไมต้องเป็น ธุรกิจร้านเบเกอรี่

วัฒนธรรมของชาวตะวันตก เข้ามามีบทบาทอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า 50 ปี หนึ่งในสิ่งที่วัฒนธรรมของชาติตะวันตก ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไทย คือ เรื่องอาหารการกิน ปัจจุบันคนไทย คุ้นเคยกับการกินอาหารฝรั่ง และนิยมกันมากในหมูวัยรุ่น และวัยทำงาน หรือคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ลงไปนั่นเอง

โดยเฉพาะอาหารประเภท Fast-food ต่างๆ เช่น แฮมเบอร์เกอร์ แซนวิส หรือสปาเก็ตตี้ เป็นต้น อาหารเหล่านี้ รสชาติอร่อย ปรุงง่าย ทำให้ร้านที่ขายอาหารเหล่านี้ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทั้งในกรุงเทพ และในต่างจังหวัด แต่ก็ยังมีอาหารอีกอย่างหนึ่ง ที่ประกบคู่มากับ อาหารที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเป็นอาหารคาวทั้งสิ้น

นั่นคือ เหล่าอาหารหวานต่างๆ เช่น ขนมเค้ก หรือขนมปัง ซึ่งเรียกรวมๆ กันว่า เบเกอรี่ หรือ Bakery ก็ได้เข้ามาแทนที่เหล่าขนมไทยโบราณ เนื่องจาก Bakery นั้น รสชาติอร่อย ปรุงง่าย กินได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องใช้จาน ชาม ช้อน และส้อม ให้ยุ่งยาก จึงทำให้เป็นที่นิยม ทั้งคนซื้อ และคนขาย

ถึงขนาดในปัจจุบัน เราอาจจะกิน Bakery เป็นอาหารมื้อหนึ่ง หรือของว่างรองท้องเลยทีเดียว จากที่เคยเป็นแค่อาหารหวาน หลังมื้ออาหารเท่านั้น นอกจากนี้ ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน Bakery ยังทดแทนอาหารมื้อหนัก ที่เคยกินและใช้เวลามากได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว

เราจึงเห็นได้ว่า ความนิยมชมชอบ ทาน Bakery ของคนไทยนั้น ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น และมีขายอยู่เกือบทุกหัวถนน แต่ร้านที่ทำได้ไม่อร่อยนั้น ไม่นานก็ต้องเลิกไป ส่วนร้านที่อร่อยนั้น ยังไงก็ขายได้ และอยู่รอดทำกำไรได้ ในระยะยาว อย่างแน่นอน

รูปแบบของธุรกิจร้านเบเกอรี่

1. รับขนมจากที่อื่นมาขาย

Bakery ยี่ห้อ HOME ของมหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนดุสิต เป็นตัวอย่างสุด Classic ของร้านเบเกอรี่รูปแบบนี้ เราจะเห็นคนนำขนมยี่ห้อ HOME มาเดินขายตามที่ต่างๆ หรือตั้งโต๊ะขายก็ตาม รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่เริ่มต้นง่าย เพียงไปรับขนม และนำมาตั้งขาย ไม่ต้องจมทุนไปกับการซื้อเครื่องอบขนม ไม่ต้องเปลืองแรงทำ และขนมที่ขายอร่อยแน่นอน

2. ทำขนมขายเอง

หากคุณมีเงินทุนมากขึ้นมาหน่อย และเคยไปเรียนทำ Bakery มา หรือมั่นใจในฝีมือ ธุรกิจร้านเบเกอรี่ชนิดนี้ จะทำเงินได้มากกว่า เพราะว่าเราไม่ต้องไปรับขนม มาจากที่อื่น ซึ่งมีต้นทุนที่ซื้อมา แพงกว่าขนมที่เราทำเองอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่า เงินลงทุนที่ลงเพิ่มไป จะคุ้มกับรายได้ที่ได้เพิ่มขึ้นมาหรือเปล่า

3. ร้านเบเกอรี่พร้อมที่นั่ง แบบเต็มรูปแบบ

ถ้าไม่อยากขายแค่ Bakery อย่างเดียว และคิดว่าขนมที่ทำขึ้นมา มีดีกว่าแค่จะเป็นร้านทั่วไป ก็เปิดร้านเบเกอรี่พร้อมที่นั่ง แบบเต็มรูปแบบได้เลย เพราะราคาขนมจะขายได้แพงกว่า 2 แบบแรก โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้เป็นจุดนัดพบ สำหรับคนที่มาทานขนม นั่งคุยกัน หรือนั่งอ่านหนังสือ ซึ่งเข้ากับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ด้วย

4. ขายแฟรนไชส์ร้านขนม

หากคุณมีร้านขนมแบบที่ 2 หรือ 3 แล้วพบว่ามีคนเข้าร้านของคุณอย่างล้นหลาม และคุณมีระบบการบริหารจัดการร้านที่ดีด้วย จนคิดว่าอยากจะขยายสาขา แต่ติดตรงที่ไม่มีเงินลงทุนเพิ่มเติม ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมของคุณ น่าจะเป็นการขายแฟรนไชส์ร้านของคุณ เท่านี้คุณก็ขยายสาขาได้ โดยใช้เงินลงทุนของคนอื่นแล้ว

จุดเด่นของธุรกิจร้านเบเกอรี่

1. คนเดียวก็ลุยได้

ถ้าคุณตั้งใจรับขนมจากที่อื่นมาขาย ก็ไม่จำเป็นต้องจ้างคนให้วุ่นวาย  เพราะเป็นธุรกิจที่คนๆ เดียวก็สามารถดูแลร้านได้อย่างสบายๆ ขายเอง เก็บตังเอง รับตังเอง ไม่ต้องแบ่งใคร ไม่ต้องปวดหัวเรื่องลูกจ้างจะมาไม่มา จะเปิดร้านได้หรือไม่

2.เข้ากับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่

คนรุ่นใหม่นิยม ไปนั่งตามร้านขนม เพื่อพักผ่อน นั่งคุย สนทนากับเพื่อน หรือนั่งอ่านหนังสือ เพื่อผ่อนคลาย การเปิดร้านขนมแบบเต็มรูปแบบ จึงตอบโจทย์ข้อนี้ได้ และทำรายได้ให้กับธุรกิจได้ อย่างเป็นกอบเป็นกำ อย่างแน่นอน

3. เป็นอาหารจานด่วน หรือรองท้อง

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” เมื่อคุณเดินทางไกล หรืออยู่ในชั่วโมงเร่งด่วน ไม่สามารถหาที่นั่งรับประทานอาหารได้ การทานขนมที่ซื้อข้างทาง จะช่วยให้คุณคลายหิวไปได้ ก่อนที่คุณจะทำธุระเสร็จ และไปกินอาหารมื้อใหญ่ต่อไป

ปัจจัยสู่ความสำเร็จของ ธุรกิจร้านเบเกอรี่

1. ทำเล

“Location is the key to most businesses, and the entrepreneurs typically build their reputation at a particular spot.”
Phyllis Schlafly

“ทำเลเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ และผู้ประกอบการก็ควรที่จะสร้างชื่อเสียง ในด้านใดด้านหนึ่งเช่นกัน” เป็นคำพูดของ Phyllis Schlafly นักกฎหมายมหาชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ชาวอเมริกัน

มันคงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าคุณต้องเปิดร้านในซอยเปลี่ยว ที่ไม่มีคนเดินผ่าน นอกจากจะขายไม่ได้แล้ว ยังมีแนวโน้มจะโดนปล้นอีกต่างหาก ฉะนั้นทำเล จึงมีความสำคัญ สำหรับธุรกิจ Bakery แต่อย่าลืมว่า ค่าเช่าที่คุณต้องจ่ายนั้น ต้องคุ้มกับทำเลที่ได้ด้วย ถ้าทำเลดีแต่ค่าเช่าแพง จนคุณต้องขาดทุน ก็คงจะไม่ดีแน่

2. รสชาติขนม

“It’s kind of awkward to eat alone in a restaurant because everybody’s looking at me.”
Louis C. K.

“มันคงจะทำให้ฉันรู้สึกแย่ ถ้าต้องนั่งกินข้าวคนเดียวในร้าน เพราะทุกคนในร้าน จะต้องจับจ้องมาที่ฉัน” เป็นคำพูดของ Louis C.K. นักแสดงตลก และนักแสดงเดี่ยวไมโครโฟน ชาวอเมริกัน

ปัจจัยสู่ความสำเร็จที่ขาดไม่ได้สำหรับ ธุรกิจขายอาหาร นั่นคือ รสชาติอาหาร ต่อให้คุณมีทำเลดีขนาดไหน ตกแต่งร้านสวยขนาดไหน จัดโปรโมชั่น ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายขนาดไหน ก็ไม่สามารถยืนระยะได้ หากรสชาติอาหารของร้านคุณไม่ได้เรื่อง หรือไม่ถูกปากลูกค้า

3. ความเป็นกันเองของพนักงานในร้าน

“Anything that prevents you from being friendly, a good neighbour, is a terror tactic.”
Richard Stallman

“อะไรก็ตามที่ทำให้คุณไม่เป็นมิตรกับคนอื่น คือ วิธีที่นำไปสู่ความหายนะ” เป็นคำพูดของ Richard Stallman โปรแกรมเมอร์ ชาวอเมริกัน

ธุรกิจร้านเบเกอรี่ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องมีการบริการที่เป็นเลิศ เราจะเห็นได้ว่าบางครั้งลูกค้าขาจรที่เพิ่งเคยเข้ามาร้านเราเป็นครั้งแรก อาจจะด้อมๆ มองๆ เมนูว่าจะสั่งอะไรดี

พนักงานในร้านก็ควรที่จะแนะนำลูกค้าได้ว่า ขนมชิ้นไหนที่เป็นเมนูขายดี และชื่อดังของร้าน เพื่อให้ลูกค้าขาจรนั้น ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มา ลูกค้าจะหลงรักร้านของเรา และเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่จะตัดสินใจมาใช้บริการ

Posts related