นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ภาคการลงทุน มองว่านักลงทุนทั้งในและต่างประเทศส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเพื่อตอบรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นที่นักลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดการณ์แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยไว้แล้ว และแม้ว่าก่อนหน้านี้ดัชนีจะปรับตัวลดลงมามาก จากการเทขายหุ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีการช้อนซื้อกลับด้วย จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าการรัฐประหารครั้งนี้แตกต่างกับการปฏิวัติเมื่อปี 49 โดยสิ้นเชิง สำหรับ กบข. ได้ประเมินตั้งแต่กลางปี 56 แล้วว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง จึงได้ปรับพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลดลงเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 11% หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากพอร์ตการลงทุนทั้งหมด 4.7 แสนล้านบาท โดยส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยประมาณ 62% ต่างชาติ 4-5%หุ้นต่างชาติ 14% อสังหาริมทรัพย์ 5-6% และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง “4 เดือนแรกของปี 57 ผลตอบแทนจากการลงทุนของ กบข. เป็นบวกในระดับที่น่าพอใจ โดยทั้งปีตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิก กบข. ให้สูงกว่าระดับอัตราเงินเฟ้อ 2-3% โดยปัจจุบันอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ราว 2% กว่า ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าปีนี้ผลตอบแทนของสมาชิก กบข. จะอยู่ที่ 5-6%”  อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐประหาร ยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น คงต้องมาติดตามสถานการณ์ในภาพรวมของประเทศอย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ปัญหาความขัดแย้งทุกอย่างจะยุติลงหรือไม่ ซึ่งอาจมีผลต่อการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิต เรทติ้ง) ของประเทศ แต่เชื่อว่าจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะหลังจากนี้จะมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะทำให้ระบบต่าง ๆ เดินหน้าได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ กบข. พร้อมจะระมัดระวังการลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง ซึ่งกลยุทธ์เบื้องต้นคือจะกระจายการลงทุนออกไปในหลายกลุ่ม หลายรูปแบบ โดยเฉพาะในปี 57 นี้ เนื่องจากมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ยังอยู่ในช่วงชะลอตัว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กบข.เชื่อนักลงทุนส่วนใหญ่ปรับตัวได้

Posts related