นายเศรษฐาทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด ( มหาชน ) เปิดเผยว่าบริษัทได้วางแผนปิดตัวโครงการใหม่ในปี 57 นี้ 19 โครงการรวมมูลค่า 33,263 ล้านบาทจากปี 56 ที่ผ่านมาบริษัทเปิดโครงการได้ถึง 48 โครงการจากเป้าหมายที่วางไว้ 45 โครงการ เนื่องจากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการชุมนุมฯเช่น กลุ่มที่มีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวโรงแรมเป็นหลัก แต่ถือว่า ยัง กระทบไม่มากเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัย แท้จริง ขณะที่ลูกค้าเก็งกำไรมีน้อยมาก 2 % จากยอดขายรอโอน 63,000 ล้านบาทแต่ทั้งนี้ ยังมีบางโครงการที่ก่อสร้างไม่เสร็จทำให้มีเวลาตัดสินใจหากสถานการณ์คลี่คลายก็อาจพัฒนาโครงการเพิ่มได้ นอกจากนี้จะขึ้นราคาบ้าน 3 -5% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ด้า นต ลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ คงจะ ทรงตัวหรือโตไม่เกิน 3-5% สอดคล้องกับการเติบโตของ เศรษฐกิจและยืนยันว่ายังไม่เห็น สัญญาณของ สินค้าล้นตลาด ( โอเวอร์ซัพพลาย ) เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายลดการเปิดโครงการใหม่ลงตามแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยที่อาจลดน้อยลงตามภาวะเศรษฐกิจซึ่งทำให้ ความต้องการซื้อและต้องการขาย น่าจะสอดคล้องกันไปได้ ส่วน ปัจจัย บวก ที่ช่วยเสริมตลาดปีนี้ คือแนวโน้ม ดอกเบี้ยคงที่หรือลดลงอีกเนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวรวมถึงเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลให้รายได้ผู้ส่งออกเพิ่มขึ้นกำลังซื้อของกลุ่มนี้ ก็ เพิ่มขึ้นไปด้วยสอดคล้องกับตลาดสหรัฐฯที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวซึ่งทำให้ภาคการส่งออกปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนส่วนปัจจัยที่กดดันตลาด คือ ความกังวลเรื่องปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเท่านั้นหากรุนแรงและยืดเยื้อจะส่งผลกระทบในทางลบ มากขึ้น “ทั้งนี้ในส่วนของยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทเพิ่มขึ้นที่ 9% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 56 จากครึ่งปีแรกที่ 6% เนื่องจากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองรวมถึงตัวเลขของหนี้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างไรก็ตามถือว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือการรับรู้รายได้แต่หากแนวโน้มทางการเมืองยังรุนแรงต่อเนื่องอาจส่งผลให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อปีนี้เพิ่มสูงขึ้นได้” แต่อย่างไรก็ดีปีนี้คาดว่าจะทำกำไรสุทธิได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปีก่อนหากทำรายได้ตามเป้า หมาย ที่วางไว้ 34,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดขาย 30,000 ล้านบาทโดยพยายามรักษายอดขายและรุกตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นในตลาดเดิม รวมทั้งจะ ควบคุมระยะเวลาการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมหลัง จากที่ ผ่านการประเมินสิ่งแวดล้อม ( อีไอเอ ) แล้วเท่านั้น ทำให้ลดต้นทุนการปรับแก้แบบไปได้จากเดิมที่ มีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดขายคอนโด ฯ ที่ยังไม่ผ่าน อีไอเอ ทำให้ต้องปรับแก้แบบ รวมทั้ง รับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานด้วยการผลิต คอนกรีตสำเร็จรูป ( พรีคาสท์ ) ในโรงงานทั้ง 2 ระยะ ( เฟส ) เต็ม ที่
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กลัวการเมืองวุ่นยอดสร้างคอนโดหด
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs