นายชาติชายพยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องถึงขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อการใช้จ่ายของประชาชนผ่านบัตรเครดิตทั้งในแง่ของการซื้อสินค้าและการถอนเงินสดล่วงหน้าซึ่งจากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วง 3 สัปดาห์แรกของปี 57 (1-22 ม.ค.) พบว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทยเติบโต19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 56 ที่โตถึง 30% ขณะที่ตลาดรวมโตเพียง13% ถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้  โดยยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่14,000 ล้านบาท เทียบกับปี 56 ที่ 11,800 ล้านบาท ส่วนยอดการถอนเงินสดล่วงหน้าปี 57 จำนวน 1,590 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 56 ที่มียอดการถอนเงิน 1,380 ล้านบาทเป็นสัญญาณว่าปีนี้ลูกค้าต้องการกดใช้เงินสดมากขึ้น เนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนและการชะลอการใช้จ่ายในปีที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลให้มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตชะลอตัวหรือลดลงจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและเครื่องประดับ โดยธุรกิจท่องเที่ยวมียอดการใช้จ่ายเติบโตชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดจากที่เคยขยายตัวถึง 52% ในปี 56 ลดลงเหลือ 9% ในปี 57 โรงแรมที่เคยขยายตัวถึง21% ในปี 56 ในปีนี้ขยายตัว 0%ภัตตาคารและร้านอาหารการขยายตัวลดจาก 26% เหลือ19% ปีนี้ และปั๊มน้ำมันการขยายตัวลดจาก 23% เหลือ 14% ในขณะที่ทองคำในปี 56 ที่เคยขยายตัวสูงถึง 33% แต่ในปีนี้มียอดการใช้ติดลบถึง 7%    อย่างไรก็ตามมีธุรกิจบางประเภทที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอาทิ เฟอร์นิเจอร์การเติบโตเพิ่มจาก 17% ในปี 56 เป็น 30% ในปี 57 ซูปเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มจาก 3% เป็น 8% และประกันชีวิตซึ่งมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากที่เคยขยายตัว 26% ในปี 56 มาเป็น 33% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่คนไทยหันมาสนใจทำประกันชีวิตมากขึ้น “ปีนี้ธนาคารตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น30% เป็น 310,000 ล้านบาท”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : การเมืองทำรูดปี๊ดหด

Posts related