นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไปจัดทำโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลและโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจหรือเงินแซล วงเงินรวม 700 ล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารและติดตามโครงการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความจำเป็นคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพของการดำเนินโครงการด้วย ทั้งนี้กระทรวงการคลัง ได้รายงานว่าในการดำเนินโครงการ จะจ้างบริษัทที่ปรึกษา พร้อมทั้งจัดทำนิทรรศการ การสัมมนาวิชาการ การเผยแพร่โฆษณาข่าวสารโครงการต่าง ๆ ของทั้ง 2 โครงการ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร และเก็บรวบรวมข้อมูลโครงการ เพื่อนำไปสู่การรวบรวมข้อมูลสถิติความสนใจ ความคิดเห็นอย่างเป็นระบบในโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบของทั้ง 2 โครงการ ซึ่งจะจัดทำกิจกรรมในมิติต่าง ๆ ที่สร้างปฏิสัมพันธ์กับประชาชนและภาคธุรกิจต่อไป รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมครม.เมื่อสัปดาห์ก่อนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ได้ขอถอนเรื่องนี้ออกจากที่ประชุม โดยได้นำไปปรับเปลี่ยนเพียงชื่อโครงการ จากเดิมใช้ชื่อว่าโครงการประชาสัมพันธ์โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และโครงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของไทย เป็นโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อผู้รับผิดชอบโครงการจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดิมนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ทำเรื่องขอรับการจัดสรรเงินกู้ดังกล่าวจากกระทรวงการคลัง เป็นสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมารับผิดชอบแทน สำหรับรายละเอียดของโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลวงเงิน 400 ล้านบาทยังเหมือนกับโครงการเดิมดังนี้คือ การจัดจ้างที่ปรึกษาวงเงิน 125 ล้านบาท การจัดสัมมนาในจังหวัดนำร่อง 12 จังหวัด และกทม.วงเงิน 65 ล้านบาท การจัดนิทรรศการเคลื่อนที่ 65 ล้านบาท และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางสื่อต่างๆ วงเงิน 145 ล้านบาท ส่วนโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนวงเงิน 300 ล้านบาท ก็มีรายละเอียดเหมือนเดิมเช่นกัน โดยแบ่งเป็น การจัดงานไทยแลนด์โรดโชว์ทูอาเซียน วงเงิน 195.192 ล้านบาท การจัดงานสัมมนาระหว่างประเทศและจัดงานไทยแลนด์เอ็กซ์โป ทูเวิร์ดส์ เออีซี 2015 วงเงิน 15.194 ล้านบาท โครงการเพิ่มศักยภาพเมืองด่านพรมแดนรองรับเออีซีวงเงิน 89.614 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ครม.อนุมัติโยกงบประมาณ 700 ล้านบาท
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs