นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบให้ใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,100 ล้านบาท ให้กับกรมสรรพสามิตนำไปเป็นเงินคืนแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรกที่ถือครองครบ 1 ปี ในเดือนพ.ค.-ก.ค.57 ซึ่งเป็นการอนุมัติเพื่อนำไปใช้ 3 เดือนก่อน จากที่กระทรวงการคลังเสนอขอมา 5 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ย.57 วงเงินรวม 8,830 ล้านบาท หลังสำนักงบประมาณตั้งข้อสังเกตว่า หากอนุมัติทั้ง 5 เดือนอาจจะผูกพันกับรัฐบาลชุดใหม่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งได้ในเดือนก.ค.57 ส่วนที่เหลือจึงค่อยพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นรัฐบาลใหม่เป็นผู้มาพิจารณา โดยทั้งหมดนี้ต้องนำเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาก่อนด้วย “อยากจะย้ำให้ประชาชนทราบว่ากระทรวงการคลังไม่เคยติดเงินหรือมีเงินค้างในการจ่ายคืนเงินในโครงการรถยนต์คันแรก เพราะมีการจ่ายเงินคืนอยู่ตลอด ในเดือนเม.ย.นี้ก็มีเงินแล้ว โดยวงเงินที่ขออนุมัติจากครม.เป็นเงินที่จะต้องจ่ายในเดือนถัดไป เริ่มจากเดือนพ.ค.ส่วนที่บางคนยังไม่ได้รับเงินเป็นปัญหาเฉพาะบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับเอกสารไม่พร้อมแต่โดยภาพรวมไม่มีปัญหา” สำหรับเหตุผลที่กระทรวงการคลังต้องมาเสนอของบประมาณดังกล่าวเพิ่มเติม เนื่องจากในปีงบประมาณ 57 กรมสรรพสามิตได้รับจัดสรรงบประมาณในโครงการรถยนต์คันแรกไว้ 40,000 ล้านบาท ขณะที่มีผู้มีสิทธิถือครองรถยนต์คันแรกครบ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.55 – 30 ก.ย.56 รวมเป็นเงิน 48,830 ล้านบาท จึงยังขาดอยู่ 8,830ล้านบาท ทั้งนี้ตั้งแต่ดำเนินโครงการมีผู้ขอใช้สิทธิ์ 1,259,101ราย คิดเป็นเงิน 92,180ล้านบาท ขอยกเลิกการใช้สิทธิ์ 10,080 ราย และไม่ได้รับสิทธิ์เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไข 4,116 ราย ทำให้มีผู้อยู่ในสถานะรับสิทธิ์ 1,244,905 ราย. คิดเป็นเงิน 91,198ล้านบาท โดยเมื่อนับเริ่มโครงการและคืนเงินในเดือนก.ย.55 จนถึงมี.ค.57 กรมสรรพสามิตได้คืนเงินให้ผู้ซื้อไปแล้ว 938,718 ราย คิดเป็นเงินคืนทั้งสิ้น 67,434 ล้านบาท. โดยมีผู้ได้รับรถแล้ว 1,128,285ราย ยังเหลือไม่ได้รับรถ116,620 ราย คิดเป็น 9.37%ของจำนวนรถทั้งสิ้นที่เข้าโครงการ นอกจากนี้มีรายการขอปลดล็อคและแจ้งอายัดรถยนต์จากลิสซิ่งเพียง 1,445 ราย เป็นเงิน 85.51ล้านบาท โดยกรมสรรพสามิตได้จ่ายเงินคืนแล้ว 846 ราย เป็นเงิน 47.37ล้านบาท เสียชีวิตแล้ว 5ราย เป็นเงิน 396,711 บาท และยังไม่ได้จ่ายคืน 599ราย เป็นเงิน 38.14ล้านบาท เสียชีวิตแล้ว34 รายเป็นเงิน 2.32 ล้าานบาท
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ครม.เห็นชอบจ่ายเงินรถคันแรก5,100ล้านบาท
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs