นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า สถิติการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงเดือนม.ค. – ก.พ. 57 มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริม 188 โครงการ ลดลง 46 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าเงินลงทุนรวม 63,100 ล้านบาท ลดลง 58% เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งรอดูสถานการณ์ภายในประเทศของไทย ส่วนโครงการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ยื่นขอรับส่งเสริม 121 โครงการ ลดลง 40 % ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนมี 47,296 ล้านบาท ลดลง 43%“นักลงทุนส่วนหนึ่งอาจยังรอดูสถานการณ์การเมืองทื่ยืดเยื้อของไทยก่อนว่า จะเป็นอย่างไร จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ชะลอแผนการยื่นขอรับส่งเสริมออกไปก่อน แต่ก็ยังมีนักลงทุนอีกหลายกลุ่ม รวมทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้ยื่นขอรับส่งเสริมเข้ามาในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่ายังมีกลุ่มนักลงทุนที่เดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศไทยอยู่ ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่พบสัญญาณใดๆ ที่นักลงทุนจะถอนการลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตไปจากไทย”ทั้งนี้ หากพิจารณาการยื่นขอรับส่งเสริมรายอุตสาหกรรม มีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีการขยายการลงทุนในระดับหมื่นล้านบาท เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษและพลาสติก มีมูลค่าเงินลงทุนของโครงการทั้งหมดที่ยื่นขอรับส่งเสริม 22,500 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องจักร มีมูลค่าเงินลงทุน 17,400 ล้านบาท และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มีมูลค่าเงินลงทุน 13,500 ล้านบาทส่วน นักลงทุนต่างชาติ แม้จะลงทุนลดลง โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่น ยื่นขอรับส่งเสริม 61 โครงการ ลดลง 42 % มูลค่าเงินลงทุนรวม 17,379 ล้านบาท ลดลง 63% แต่มีการลงทุนจากอีกหลายชาติที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เช่น สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 9,761 ล้านบาท สิงคโปร์ มีมูลค่าเงินลงทุน 2,195 ล้านบาท ฮ่องกง มีมูลค่าเงินลงทุน 2,128 ล้านบาท เนเธอร์แลนด์ มีมูลค่าเงินลงทุน 1,998 ล้านบาท และการลงทุนจากจีน มีมูลค่าเงินลงทุน 1,461 ล้านบาทอย่างไรก็ตามปี 57 บีโอไอ ยังมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนอื่นๆ ที่จะช่วยดึงดูดการลงทุน เช่น โครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรือ อีโคคาร์ ระยะ 2 ซึ่งขณะนี้มีการยื่นขอรับส่งเสริมเข้ามาแล้ว และจะเปิดให้ค่ายรถยนต์ยื่นคำขอการลงทุนได้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอี ซึ่งจะสิ้นสุดการให้ส่งเสริมในสิ้นปีนี้
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : นักลงทุนยื่นขอบีโอไอร่วง 58%
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs