รุกคืบเข้ามาแล้วสำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 ถือเป็นการรวมตัวที่สร้างบทบาทในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจให้มีความโดดเด่นมากขึ้นแต่การที่จะประกอบธุรกิจระหว่างกัน คงไม่พ้นการสื่อสารด้วยภาษา ที่ปัจจุบันไม่เพียงแต่ “ภาษาอังกฤษ” ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันอย่างสากลแล้ว “ภาษาไทย” ถือเป็นภาษาหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เออีซีขับเคลื่อนไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในกลุ่มคาบสมุทรอินโดจีนอันได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เริ่มตื่นตัวและสนใจที่จะเรียนรู้เพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการที่สามารถช่วยให้การดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุน ทำได้อย่างง่ายดาย “ดร.ดลฤทัย ขาวดีเดช” อาจารย์และประธานฝ่ายส่งเสริมการรับนักศึกษาประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในรายการ “เศรษฐกิจติดจอ” ทางเดลินิวส์ทีวี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า “ภาษาไทย” ถือเป็นหนึ่งในภาษาเพื่อใช้ในการสื่อสารที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ 10 ประเทศในอาเซียนโดยภายหลังการเปิดเออีซีทั้ง 10 ประเทศสามารถเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน รวมทั้งแรงงานที่มีฝีมืออย่างเสรีส่งผลให้ภาษาไทยเป็นภาษาที่ผู้ประกอบการของแต่ละประเทศเริ่มส่งพนักงานเข้ามาเรียนเพื่อใช้ในการทำธุรกิจ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าทำไม “ภาษาไทย” กลับมามีบทบาทสำคัญต่อการสื่อสารระหว่างประเทศมากขึ้นเนื่องด้วยบรรดาเพื่อนบ้านต้องการใช้ภาษาไทย เพื่อการติดต่อสื่อสารและดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะการแปลภาษา จึงจำเป็นต้องรู้ถึงภาษาไทยเป็นหลัก ไม่ว่าจะแปลภาษาเวียดนามหรือ พม่า หากแปลกลับมาเป็นไทยแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าใจถึงความหมายที่ถูกต้องอาจส่งผลให้ผู้รับสารเข้าใจผิดได้และต้องยอมรับว่าการดำเนินธุรกิจภายหลังการเปิดเออีซีบางครั้งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาไทย เช่น การทำธุรกิจบันเทิงก็ต้องใช้ความเข้าใจในภาษาไทยโดยเฉพาะล่ามแปลที่จำเป็นต้องแปลให้เป็นภาษาอื่น หรือภาษาอื่นให้เป็นภาษาไทยจะต้องเข้าใจภาษาเป็นอย่างดีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติต้องเข้ามาเรียนเพิ่มเติม “ปัจจุบันมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีนักศึกษาจากประเทศจีนมาเรียนแต่ละปีกว่า 100 ราย และนักศึกษาญี่ปุ่นขอเรียนภาษาไทยร่วมกับนักศึกษาไทยเนื่องจากต่างชาติให้ความสนใจกับภาษาไทยเพราะการที่เรียนรู้ภาษาใดภาษาหนึ่งอย่างลึกซึ้งและแตกฉานจะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจ แต่ในทางกลับกันเด็กไทยยิ่งจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาหลักของตนเองเพราะความรู้น้อยลงเรื่อย ๆ ทั้งการพูด อ่าน เขียน ที่ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์โดยเฉพาะปัจจุบันที่ก้าวสู่ยุคโลกาภิวัตน์ที่มีการติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจจะใช้ผิดหลักไปบ้างทำให้ต้องมีการเตือนจากอาจารย์ผู้สอนว่าต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตามกาลเทศะ” นอกจากนี้โรงเรียนสอนภาษาที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย นอกจากจะสอนภาษาอังกฤษหรือจีนแล้วควรเพิ่มหลักสูตรการสอนภาษาไทยเพื่อสอนให้กับชาวต่างชาติไปด้วยและต้องตระหนักถึงการผลิตสื่อเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียน รวมทั้งแทรกวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ เข้าไปด้วย โดยยอมรับว่าวงการสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติยังมีไม่เพียงพอแต่ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เริ่มเข้าไปช่วยดูแลและอบรมอาจารย์ ที่สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติบ้างแล้วเพราะการสอนภาษาให้กับชาวต่างชาติมีความแตกต่างกับการสอนภาษาไทยให้คนไทย ที่สำคัญภาครัฐต้องมีนโยบายส่งเสริมภาษาไทยให้ชัดเจนในการสนับสนุนโรงเรียนสอนภาษาด้วยการดูแลและพัฒนาศักยภาพอาจารย์ ผู้สอนที่สอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติและแทรกวัฒนธรรม สังคม ให้เหมาะสมที่สุดโดยใช้โอกาสดังกล่าวผลักดันภาษาประจำชาติให้เป็นที่รู้จักของประชาคมอาเซียน ซึ่งช่วยให้ความเป็นไทยแข็งแกร่งขึ้นเพราะภาษาไทยจะมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยิ่ง ทั้งนี้ยังพบว่าชาวต่างชาติเข้ามาเรียนภาษาไทยจำนวนมากเพื่อกลับไปเปิดธุรกิจสอนภาษาในแต่ละประเทศของตนเองซึ่งขณะนี้หากใครขยับเร็วย่อมได้เปรียบ ถือเป็นโอกาสที่ดีเลยทีเดียวเพราะปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็เริ่มตื่นตัวกันมากขึ้นแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจเรียนภาษาสามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและศูนย์ภาษาที่ขณะนี้ได้มีการออกแบบหลักสูตรเรื่องของการเตรียมความพร้อมของภาษาในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกรุ่นทุกวัย เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น แม้ภาษาไทยไม่ใช่ภาษาสากลแต่ตอนนี้เริ่มมีความสำคัญกับต่างชาติมากขึ้น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ที่คนไทยทุกคนจะต้องช่วยกันรักษาและเผยแพร่ให้ต่างชาติได้มีส่วนร่วมในเอกลักษณ์ของไทยและที่สำคัญต้องปลูกฝังการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตั้งแต่เด็กไม่ใช่แค่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ต้องเป็นทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงสถาบันครอบครัวก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปได้อย่างเข้มแข็งอีกด้วย. วุฒิชัย มั่งคั่ง
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บทบาทภาษาไทยหลังเปิดเออีซี – เออีซีกับม.หอการค้าไทย
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs