นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยภายในงาน อีโคโนมิค เอาท์ลุค : ตามติดเศรษฐกิจไทยในปี 57 จัดโดยสภอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตว่า ได้ประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปี 57 คาดว่าจะขยายตัว 5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลก เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ถ้าเหตุการณ์การเมืองมีความรุนแรงต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง 1–1.5% เหลือการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 3.5–4% เท่านั้น “ถ้าประเทศไทยยังทะเลาะกันไม่เลิก ต่างชาติคงไม่อยากเข้ามาลงทุน และรัฐบาลจะโฟกัสการลงทุนโครงการต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง ทำให้โครงการต่าง ๆ ล่าช้าต่อไป เช่น โครงการ 2 ล้านล้านบาท เพราะต้องไปโฟกัสเรื่องการแก้ปัญหาการเมืองแทน ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ จากต้นปีที่คาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว 5% แต่ตอนนี้เป็นไปได้ยากที่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 4% น่าจะอยู่ที่ 3.5-4% เท่านั้นเพราะไตรมาส 3 การลงทุนและการบริโภคชะตัวลง ขยายตัวเพียง 2–3% แม้การท่องเที่ยวจะขยายตัว 25–27% ก็ตาม และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การเมืองด้วย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 57 เชื่อว่า จะขยายตัวมากกว่า 4 % หากไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ มาทำให้เกิดปัญหา หรือสะดุด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกภาพรวมจะฟื้นตัว ท้ังประเทศสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ขณะเดียวกันไทยยังเป็นประเทศที่ได้เปรียบความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 58 เนื่องจากมีอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและมีฐานการผลิตอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เข้มแข็งสุดในภูมิภาคนี้และยังมีภูมิศาสตร์ที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนได้อย่างดี “งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทนั้น ถ้ารัฐบาลฉลาด ไทยก็จะเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาคนี้ได้ ซึ่งเห็นว่าควรจะตัดอะไรที่ไม่จำเป็นออกเพราะทำแล้วเจ๊งแน่ เช่น รถไฟความเร็วสูงไปเชียงใหม่ ต้องตัดออก เอาเฉพาะที่จำเป็น คือ รถไฟระบบรางคู่ และท่าเรือน้ำลึกปากบารา ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมโยงโดยท่าเรือปากบารานั้นทั้งจีนและกัมพูชาอยากได้มาก และถ้าโฟกัสโครงการที่จำเป็นงบประมาณลงทุนก็ไม่เกิน1.5 ล้านล้านบาท” ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า ปี 57 ราคาน้ำมันในไทย ทั้งเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ มีโอกาสปรับลดลง ตามทิศทางตลาดโลก รวมทั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ส่วนราคาน้ำมันดีเซล หากรัฐบาลไม่ทยอยเรียกคืนภาษีสรรพสามิตดีเซล เชื่อว่า จะตรึงราคาที่ลิตรละ 30 บาท ขณะที่แนวโน้มค่าไฟฟ้าปี 57 มีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) สูงขึ้น เพราะราคานำเข้าสูง นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 57 คาดว่า จะขยายตัวได้มากกว่า 4% หากไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง เนื่องจากเศรษฐกิจโลก เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งจะทำให้ภาคการส่งออกของไทยดีขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ภาคธุรกิจรับการเมืองรุนแรงฉุดเศรษฐกิจ 57โต3.5%

Posts related