รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า จากการสำรวจคนกรุงเทพฯที่มีอายุระหว่าง 15-35 ปี เกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยในช่วงวาเลนไทน์พบว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท ขยายตัว 7.7% หากเทียบกับปีที่แล้ว หรือผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวาเลนไทน์ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,310 บาทต่อคน เทียบกับปีที่แล้วที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,280 บาทต่อคน โดยปัจจัยทางด้านการเมืองไม่ค่อยมีผลกระทบ ต่อการเข้าร่วมกิจกรรมมากนัก ประกอบกับวันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชาทำให้กิจกรรมที่ทำมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ตอบสัดส่วน 84% สนใจทำกิจกรรมพิเศษร่วมกับบุคคลอันเป็นที่รัก โดยเน้นทำกิจกรรมนอกบ้าน ได้แก่ การออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน คิดเป็นสัดส่วนถึง 62.7% รองลงมาคือ การทำบุญตักบาตร 40.5% ดูหนัง-ฟังเพลงนอกบ้าน 34.8 % ช็อปปิ้งเดินเล่น 31% ขณะที่ 25.3 % จะทำกิจกรรมอยู่บ้าน เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม สำหรับของขวัญที่เป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ คนกรุงเทพฯ กว่า 66.0% ไม่เลือกซื้อดอกไม้ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากกำลังซื้อที่ยังคงชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคในปัจจุบันมีเหตุผลในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่เน้นไปที่ประโยชน์ใช้สอยและให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 25-35 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามที่ให้ที่สนใจในการเลือกซื้อดอกไม้จะซื้อดอกเดี่ยวมากกว่าจัดเป็นช่อ โดยดอกไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ดอกกุหลาบแดง 49.2% โดยจะมีการเลือกซื้อดอกไม้ผ่านร้านจัดดอกไม้ทั่วไปเป็นหลัก 54% ส่วนราคาดอกกุลหลาบมีราคาใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คือ ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนช่วงวาเลนไทน์ ราคากุหลาบจะค่อยๆ ขยับขึ้นจนถึงคืนวันที่ 13-14 ก.พ. ราคาจะพุ่งสูงกว่าช่วงปกติประมาณ 2-3 เท่า “ดอกกุหลาบ สื่อรักแทนใจในช่วงวาเลนไทน์ ในปีนี้ได้รับความสนใจจากคนกรุงเทพฯ ลดลงและถูกทดแทนด้วยของขวัญประเภทอื่นๆ เช่น อาทิ ช็อคโกแลต ตุ๊กตา และสินค้าในกลุ่มแฟชั่น เป็นต้น นอกจากนี้คนรุ่นใหม่นิยมบอกรักผ่านโซเชียลมีเดีย ผ่านไลน์ วอทแอพ เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็วและมีการใช้งานอยู่เป็นประจำ ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล และมองว่าการทำตลาดของผู้ประกอบการจะดึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการได้พอควร เช่น ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร เป็นต้น”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : วาเลนไทน์เงินสะพัด1,400 ล้าน
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs