นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้ สศช.รวบรวมแผนงานและนโยบายที่คสช.ได้ดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงโครงการเร่งด่วนของทุกส่วนราชการ เพื่อจัดทำเป็นร่างนโยบายเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณาเป็นแนวทางขับเคลื่อนประเทศ โดยเน้นเรื่องการเพิ่มศักยภาพของประเทศในด้านที่มีความสำคัญมากกว่ามุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศเพียงอย่างเดียว “ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระยะที่1 ไปสู่ระยะที่ 2 ตามที่คสช.ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นในด้านนโยบาย หัวหน้าคสช.ก็ให้ไปรวบรวมโยบายที่คสช.ขับเคลื่อนไปตั้งแต่ 22 พ.ค. และแผนงานในช่วง 1ปีข้างหน้าของทุกส่วนราชการ ว่ามีโครงการอะไรบ้างที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องเดินหน้าต่อ รวมถึงรวบรวมแผนงานใช่วง 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ว่าได้ทำอะไรมาบ้าง จากนั้นจึงนำมาจัดทำเป็นร่างนโยบายเสนอให้รัฐบาลใหม่” ทั้งนี้ในแนวนโยบายที่เสนอรัฐบาลใหม่ สิ่งสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติเห็นศักยภาพของประเทศไทย โดยต้องมีสิ่งที่ต้องดำเนินการ 5 เรื่อง คือ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และระบบโลจิสติกส์ต้องมีศักยภาพกว่าปัจจุบัน ,ภาคอุตสาหกรรมต้องเข้มแข็ง ผลิตสินค้าใหม่ๆ ไม่ผลิตสินค้าแข่งกับประเทศที่ผลิตสินค้าราคาถูก ,แก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ,พัฒนาคุณภาพของคนให้มีศักยภาพ เน้นเรื่องการศึกษาให้มีเด็กที่เก่งอย่างทั่วถึง ผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการตลาด และสุดท้ายต้องเร่งส่งเสริมการใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมเข้ามาผลิตสินค้าด้วย นายอาคมกล่าวว่า หัวหน้าคสช.ได้แสดงความเห็นหลายครั้ง เมื่อพูดถึงแผนพัฒนาฯของประเทศ ว่า ใช้แผนพัฒนาฯแล้วได้ผลสัมฤทธิ์ในนโยบายของแผนอะไรบ้าง และยังกล่าวถึงการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12และ13ควบกันไปด้วย เพื่อวางแผนพัฒนาประเทศระยะต่อไป โดยการดำเนินการในส่วนนี้ต้องมีโรดแมปทั้งระยะปานกลางและระยะยาว ซึ่งสศช.เคยทำวิสัยทัศน์ประเทศไทยปี 2027 ไว้ ดังนั้นจึ้งต้องนำมามาทบทวนอีกครั้ง โดยจะหารือกันในสศช.ต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สั่งรวมแผนงานคสช.รอชงรัฐบาลใหม่

Posts related