นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการศึกษาศัยภาพการแข่งขันของสินค้าไทยในอาเซียนบวก 3ว่า  ในปี 54-56 สินค้าของไทยได้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดจีน  ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้แก่ประเทศในกลุ่มอาเซียนแล้ว 183,125 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น  250,000 ล้านบาทในปี 57 ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้า 5 ประเภท คือข้าว, น้ำมันปาล์มดิบ, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้, เครื่องใช้ไฟฟ้า  เนื่องจากในระยะหลังไทยมีปัญหาเรื่องของการเมือง รวมถึงการพัฒนาและการส่งเสริมธุรกิจของไทยยังอยู่ในต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน  ทั้งนี้เพื่อรักษาส่วนแบ่งสินค้าในตลาดอาเซียน บวก 3 ประเทศไทยจำเป็นต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองให้เร็วที่สุดรวมถึงให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการในการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันผู้ประกอบการไทย เพราะในการแข่งขันสินค้าในกลุ่มอาเซียน บวก 3 นั้นพบว่า ข้าว, น้ำมันปาล์มดิบ, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงมาก และสินค้าประเภทไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า อยู่ในภาวะความเสี่ยงในระดับกลาง   สำหรับผลการศึกษาศักยภาพการแข่งขันสินค้าอาเซียน บวก 3 พบว่าในช่วง 54-56 นั้นประเทศที่สูญเสียส่วนแบ่งทางตลาดของจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ มี 3 ประเทศโดยสินค้าจากฟิลิปปินส์ มีมูลค่าสูญเสียมากที่สุด  728,329 ล้านบาท รองลงมาเป็น สิงคโปร์ 393,194 ล้านบาท, ไทย 183,125 ล้านบาท  ส่วนประเทศที่ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมี 7 ประเทศ โดยมาเลเซียได้ส่วนแบ่งเพิ่มมากที่สุด 596,653 ล้านบาท รองลงมาเป็น เวียดนาม 306,157 ล้านบาท, อินโดนีเซีย 69,796 ล้านบาท, พม่า 65,002 ล้านบาท เป็นต้น   “ปัจจัยทางการเมืองนั้นทางศูนย์ฯเป็นห่วงสถานการณ์มากที่สุดจะทำให้ศักยภาพการแข่งขันธุรกิจไทยยิ่งตกต่ำลง ซึ่งหากปัญหาลากยาวไปอีก 3 เดือนคาดว่าจะทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยต้องขาดสภาพคล่องหรือมีการปิดกิจการเพิ่มอีก 700,000 – 800,000 ราย และหากไม่สามารถจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 58 ได้ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเกิดอาฟเตอร์ช็อคหรือเศรษฐกิจถูกแช่แข็งทันที เพราะการลงทุนต่างๆของภาครัฐหลายโครงการต้องยุติลงชั่วคราวจนกว่าจะมีงบประมาณเข้ามาดำเนินการ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สินค้าไทยถูกต่างชาติแย่งตลาด

Posts related