นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุม 7 องค์กรภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยว่า 7 องค์กรภาคเอกชนขอสนับสนุนให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าเจรจาด้วยความจริงใจ เพื่อยุติความขัดแย้งโดยเร็วที่สุด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อฐานรากเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานนอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ทำให้ไทยสูญเสียขีดความสามารถ และโอกาสในการแข่งขันในเวทีภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมา ทางฑูตต่างประเทศหลายแห่ง ได้หารือร่วมกับสภาหอ ฯ พบว่า กังวลสถานการณ์การเมืองไทยจากเหตุการณ์การใช้อาวุธสงครามอาจส่งผลต่อการทำธุรกิจ การลงทุน ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของนักลงทุนได้ จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งชี้แจงทำความเข้าใจ และหามาตรการป้องกันให้เกิดความเชื่อมั่นดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักลงทุนต่างประเทศ และขณะนี้มีความกังวลว่า เมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58ไทยจะกลายเป็นผู้ตาม ทั้งที่ควรเป็นผู้นำในภูมิภาคนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ได้ประเมินความเสียหายจากการชุมนุมต่อระบบเศรษฐกิจ เชื่อว่า ในปี 57 ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น รวมถึงกลุ่มอาเซียนก็มีทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นเศรษฐกิจไทยควรขยายตัวได้ในระดับ 4-5% แต่จากเหตุการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้ขยายตัวได้เพียง 2-3% เท่านั้น และหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม อาจส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่ำกว่าที่คาดการณ์อีกนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 57 นักท่องเที่ยวลดลงกว่า 1.7 ล้านคน รายได้หายไป 82,000 ล้านบาท ลดลง 6% จากเป้าหมายทั้งปี แต่ สทท.ยังไม่ปรับลดเป้าหมายทั้งปี จะต้องขอดูสถานการณ์ต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์ โดยคงเป้าหมายไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยว 28 ล้านคน โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์จบภายในเดือนนี้ ช่วงไตรมาส 3-4 ก็คาดว่านักท่องเที่ยวจะยังได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ก็อยากเรียกร้องรัฐบาลให้ทบทวนยกเลิกการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน อย่างเร่งด่วน ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบต่อต่างชาติและการทำประกันอย่างรุนแรง
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนแนะรัฐเจรจา กปปส.
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs