นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับ รักษาการรมช.คลัง และผู้บริหารของ 3 กรมจัดเก็บภาษี และพบว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยนั้น ต้องจับตา 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การส่งออก ที่ยังพอมีปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินบาท การลงทุนของภาครัฐ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ แต่ได้อนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ 57 ไว้เรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าทุกส่วนราชการ ยังสามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ รวมถึงการลงทุน และการบริโภคของภาคเอกชน ที่เริ่มเป็นห่วงว่า อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มั่นใจที่จะจับจ่ายใช้สอย และปัจจัยเรื่องรายได้ของภาคแรงงาน ที่อาจปรับตัวลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนของภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงตามไปด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลรักษาการ ทั้ง นายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยได้กระจายการทำงานไปยังพื้นที่สำรอง ที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ เพื่อลดสาเหตุของชนวนความขัดแย้ง และไม่ให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ สะดุดลง ยอมรับว่าจากสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ อาจทำให้ประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ลดลงไปบ้าง และหากยังมีการชุมนุมยืดเยื้อ อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในระบบเศรษฐกิจของประเทศทั้งนักลงทุนในและนอกประเทศในระยะยาวได้ สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ถือว่าเป็นภาวะปกติของการซื้อขายในตลาดหุ้น ที่ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่ามีทั้งแรงซื้อและแรงขายเกิดขึ้น โดยมองว่าการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่ปรับตัวลดลงในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี สามารถสะท้อนได้ว่านักลงทุนทั้งในและต่างชาติ ยังคงมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “โต้ง”จับตา4ปัจจัยกระทบเศรษฐกิจ

Posts related