นายมนัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย  เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการให้เช่าโกดังกลางในโครงการรับจำนำ ยังไม่ได้รับเงินค่าเช่าจำนวนหลายล้านบาท รวมทั้งในสวนของผู้ประกอบการโรงสีที่ทำการสีแปรและส่งมอบข้าวเข้าคลังกลางไปหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเอกสารการเปิดแอลซีที่ผู้ประกอบการได้เปิดไว้กับธนาคาร เพื่อเป็นหลักประกันว่าเมื่อเกิดความเสียหายต่อสินค้า ที่ผู้ประกอบการโรงสีจะมีเงินมาจ่ายคืนให้กับคู่สัญญาคือองค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ทั้งนี้ความล่าช้าของแอลซีส่งผลให้โรงสีต้องรับภาระจ่ายเงินค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารต่อไปจนกว่าจะได้เอกสารการเปิดแอลซีคืนจากคู่สัญญา โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูง 1% ต่อเดือนและแต่ละรายก็เปิดแอลซีที่มูลค่า 1 ล้านบาทขึ้นไปตามจำนวนข้าวที่รับมาสีแปรในโรงสี และหากยังไม่ได้รับแอลซีคืนก็ไม่สามารถนำเงินที่ค้ำประกันไว้กับธนาคารออกมาใช้ได้ สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่กระทรวงพาณิชย์ปิดชั่วคราวและเจ้าหน้าที่ไม่สะดวกในการปฎิบัติงานทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปด้วย ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ธนาคารคืนเอกสารแอลซีให้โรงสี “ตอนนี้ถือว่าผู้ประกอบการโรงสีตกงาน เพราะก่อนที่จะมีโครงการรับจำนำเราสามารถทำการค้าได้เองรับคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศโดยตลอดในราคาที่แข่งขันได้ แต่พอมีโครงการรับจำนำเราไม่สามารถค้าขายได้ตามปกติเพราะต้องทำตามคำสั่งรัฐบาลเพราะต้องเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวไม่ทำก็ไม่ได้เพราะข้าวทุกเมล็ดอยู่ในมือของรัฐบาลไม่ร่วมก็ไม่มีงานทำแต่เมื่อสิ้นสุดโครงการผมเห็นว่าไม่ควรทำอีกแล้วโครงการนี้แม้ใครๆจะมองว่าโรงสีได้ผลประโยชน์มากที่สุด แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้มีการค้าขายกับตามกลไกตลาด นายมนัสกล่าวว่าหลังจากรัฐบาลเริ่มดำเนินการโครงการรับจำนำข้ามาตั้งแต่ปี 54 เป็นต้นมาก็เห็นผลชัดเจนแล้วว่าโครงการนี้ล้มเหลวและไม่ควรดำเนินการต่อไป แม้ว่ารัฐบาลจะยังยืนยันว่ามีงบประมาณมาจ่ายให้กับชาวนาที่เข้าร่วมโครงการก็ตาม แต่ปัจจุบันชาวนาที่เข้าร่วมโครงการก็ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งเห็นว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการในสิ้นเดือนก.พ. นี้ หากมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาก็ไม่ควรสานต่อโครงการนี้อีก ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาดให้มากที่สุด ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างสมบูรณ์มากที่สุด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : โรงสีโวยรัฐค้างค่าเช่าโกดัง

Posts related