นายยรรยง พวงราชรมช.พาณิชย์เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมผู้ค้าส่ง-ปลีกไทยห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าและตลาดสด  ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองไม่ปกติต่อภาวะสินค้า (ศปบส.)เพื่อเป็นตัวกลางในการประสานงานให้กับผู้ค้าร้านค้าปลีกรายย่อยที่มีปัญหาในเรื่องการขาดแคลนสินค้าเพื่อให้เศรษฐกิจการค้ายังสามารถดำเนินต่อไปได้และไม่กระทบต่อการบริโภคของประชาชนและการทำธุรกิจของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่จะมีการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร(กทม.)ตั้งแต่วันที่13ม.ค.57 ทั้งนี้ ทางผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง ได้ยืนยันว่าจะพยายามไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าโดยพร้อมที่จะกระจายสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าที่มีอยู่21แห่งในพื้นที่รอบกรุงเทพฯเข้าไปยังพื้นที่ ๆมีปัญหาการขาดแคลนสินค้าได้ในทันทีโดยเทสโก้ โลตัส มี 4แห่ง บิ๊กซี2แห่ง แม็คโคร1แห่ง และเซเว่นอีเลฟเว่น 14แห่งซึ่งผู้ประกอบการมั่นใจว่าจะกระจายสินค้าได้ดีกว่าในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่และยังได้เพิ่มปริมาณสำรองสินค้าจากปกติ10วัน เป็น 15-20วัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องการสั่งซื้อสินค้าหรือจัดหาสินค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน1569ของกรมการค้าภายในซึ่งเป็นฮอตไลน์ของศูนย์ฯที่จะให้บริการตลอด 24ชั่วโมงตั้งแต่วันที่ 8ม.ค.57เป็นต้นไปโดยจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยประสานและอำนวยความสะดวกให้ นอกจากนี้สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทยได้ยืนยันและให้ความมั่นใจว่าสามารถขนส่งและกระจายสินค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ปกติและจะไม่ปรับขึ้นค่าบริการขนส่งในช่วงที่มีปัญหาด้วย สำหรับการดูแลราคาสินค้ากระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยและห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าขอให้อย่าได้ปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติโดยเฉพาะของกินของใช้นอกเหนือจากการดูแลไม่ให้สินค้าขาดแคลนซึ่งในส่วนของกรมการค้าภายในจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดอย่างต่อเนื่อง นายวรวิทย์ เจริญวัฒนพันธ์นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทยกล่าวว่า สมาคมฯสามารถขนส่งสินค้าให้กับผู้ประกอบการในช่วงปิดกรุงเทพฯได้ตามปกติเพราะได้ประสานงานกับผู้ประกอบการให้เตรียมสต็อกสินค้าเพิ่มเฉลี่ย5-10%ประกอบกับได้มีการเตรียมแผนถ่ายสินค้าจากรถขนส่งขนาดใหญ่เป็นรถขนส่งขนาดเล็ก เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่ชุมนุมได้ง่ายสำหรับการขนส่งสินค้าของสมาคมฯเฉลี่ย 60%กระจายสินค้าให้กับห้างค้าปลีกสมัยใหม่และ 40%เป็นการกระจายสินค้าให้ร้านโชห่วยซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้สมาคมฯ ได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำซิตี้ โลจิสติกส์ หรือคลังสินค้ากลางเมือง เช่นคลองเตย หมอชิต และหัวลำโพงเพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้าที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในอนาคต  นายสุวิทย์ กิ่งเเก้วรองกรรมผู้จัดการอาวุโสบริษัท ซีพี ออลล์ หรือ เซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่าการประกาศปิดกรุงเทพฯจะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนในพื้นที่ชุมนุมโดยได้สั่งการให้ทุกสาขาในพื้นที่ชุมนุมมีการสำรองสินค้ามากกว่าปกติ2-3เท่าเพื่อให้สินค้ามีปริมาณเพียงพอกับคนในพื้นที่และกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนการขนส่งสินค้าจะประสานกับตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมให้รถขนส่งสินค้าสามารถเข้าไปส่งสินค้าภายในพื้นที่ชุมนุมได้ซึ่งปกติจะส่งสินค้าหลังเวลาเที่ยงคืนไปแล้วจึงไม่กระทบกับการชุมนุม  “ตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลให้ยอดขายในพื้นที่ชุมนุมเพิ่มขึ้นเท่าตัวและราคาสินค้ายังทรงตัวไม่มีการปรับราคาขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมากำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวทำให้ผู้ผลิตสินค้าไม่กล้าที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “พาณิชย์” จัดตั้งศูนย์ป้องกันสินค้าขาดแคลน

Posts related