น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดโครงการรณรงค์ให้นักเรียนนักศึกษาที่กู้เงินกยศ.มาชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมาพบว่า มีลูกหนี้นำเงินมาชำระหนี้แล้วประมาณ 200 กว่าล้านบาท และเชื่อว่าสิ้นสุดโครงการในเดือนมี.ค.57 การชำระหนี้จะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นเท่าไรเพราะหวังว่าลูกหนี้รอรับเงินโบนัสและสวัสดิการในช่วงปลายปีและเริ่มต้นขึ้นปีใหม่มาชำระหนี้คืนให้กับกยศ.เพิ่มขึ้น โดยลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการหากประวัตดีไม่มีการค้างชำระหนี้มาก่อนและต้องการปิดบัญชีจะได้รับการลดหย่อนหนี้ 3.5% ของเงินต้น ส่วนกรณีที่ลูกหนี้ค้างชำระหนี้ แต่ต้องการชำระเงินงวดที่ค้างทั้งหมด จะได้รับลดเบี้ยปรับ และค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระหนี้100% นอกจากนี้ถ้าลูกหนี้มาปิดบัญชีจะได้รับการลดเบี้ยปรับ ค่าธรรมเนียม และได้ลดดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ยืมอีก50% ตั้งแต่วันนี้– 31 มี.ค. 57 นอกจากนี้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) พร้อมส่งข้อมูลข้าราชการที่เป็นลูกหนี้กยศ.ว่าทำงานในตำแหน่งใดบ้างของแต่ละหน่วยงานทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้กยศ.สามารถติดตามภาระหนี้สินกลับคืนมา และนำเงินมาปล่อยกู้ต่อให้กับรุ่นน้อง ขณะเดียวกันได้เจรจากับกองทุนประกันสังคมและกรมสรรพากรขอให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลของลูกจ้างเอกชนที่เป็นหนี้กองทุนกยศ. ด้วยเช่นกัน เพราะหากพบว่ากลุ่มคนที่เป็นลูกหนี้ไม่มาชำระหนี้จะถูกพิจารณาจากนายจ้างในเรื่องการพิจารณาเงินเดือนหรือตำแหน่งในหน้าที่การงาน เพราะจะทำให้นายจ้างรู้ว่าบุคคลคนนั้น ไม่มีวินัยต่อตนเอง และอาจทำให้ความไว้วางใจในการทำงานลดลง พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินคดีกับบุคคลที่ไม่มาชำระหนี้โดยจะเริ่มในปีหน้าเป็นต้นไป สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ให้บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโรเข้ามาช่วยตรวจสอบลูกหนี้ของกยศ.นั้น ขณะนี้เครดิตบูโรกำลังดูรายละเอียดของฏหมายว่ากองทุนฯ เป็นสถาบันการเงินหรือไม่ ซึ่งต้องรอสักระยะถึงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้กยศ.ได้ลงนามกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน24 แห่ง ซึ่งเชื่อว่าครอบคลุมทุกภาคส่วนในการติดตามผู้ที่กู้เงินให้นำเงินมาชำระหนี้ เพราะเงินที่กู้เป็นงบแผ่นดินหากรุ่นพี่ไม่นำเงินมาคืนจะส่งผลกระทบต่อการศึกษาของรุ่นน้องในปีหน้าเนื่องจากกองทุนฯ ถูกตัดงบไป 6,700ล้านบาททำให้กระทบต่อผู้กู้รายใหม่ 230,000 รายและผู้กู้รายเก่า 140,000 ราย และปัจจุบันมีลูกหนี้ที่ค้างชำระ1.2 ล้านรายคิดเป็นวงเงิน 12,000 ล้านบาท จากจำนวนผู้ที่ครบกำหนดชำระ2.7 ล้านราย คิดเป็นวงเงิน 70,000 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กยศ.ลุ้นลูกหนี้รับโบนัสจ่ายคืนหนี้
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs