จากคลื่นลูกใหม่ “นาโนเทคโนโลยี” ในอดีต ขณะนี้กลายมาเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและได้รับความสนใจจากแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพราะกลายมาเป็นศาสตร์สำคัญที่นักวิทยาศาสตร์ นำมาพัฒนาเทคนิควิธีการต่างๆ จนกระทั่งเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเช่น ” การพัฒนาเทคโนโลยีกล้องจุลทรรศน์ฟลูออเรสเซนต์ความละเอียดสูง” ผลงานได้รับรางวัลโนเบล ประจำปี 2557 จากสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน กรุงสต๊อกโฮล์ม ซึ่งประกาศรางวัลให้กับ 3 นักวิทยาศาสตร์ได้แก่ เอริค เบตซิค แห่งสถาบันวิจัยการแพทย์โฮเวิร์ด ฮิวจส์ สหรัฐอเมริกา วิลเลียม อี. โมร์เนอร์ แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา และสเตฟาน ดับเบิลยู เฮลล์ แห่งสถาบันวิจัยแม๊กซ์แพลงค์เพื่อการวิจัยเคมีชีวกายภาพ ประเทศสหพันธรัฐเยอรมนี ศาสตราจารย์นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บอกว่า ในปี ค.ศ. 1873 (พ.ศ.2416) หรือ 141 ปีที่แล้ว นักฟิสิกส์และนักประดิษฐ์ ชื่อ เอิร์นส์ แอบเบ (Ernst Abbe) ได้เสนอว่าเทคโนโลยีกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกนั้น ไม่สามารถให้ความละเอียดสูงที่เล็กกว่าระดับ 200 นาโนเมตรได้ เรียกว่าเห็นได้แค่แบคทีเรีย แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์3 ท่านนี้ ทำได้นั้น ก็คือการก้าวข้ามข้อจำกัด ที่ เอิร์นส์ แอบเบ ได้วางไว้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีด้านฟลูออเรสเซนส์ในระดับนาโนที่พัฒนาไปได้รวดเร็วอย่างต่อเนื่อง จนได้วิธีการที่เรียกว่า นาโน สโครป( Nano Scope) ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเห็นความละเอียดที่คมชัดสูง จากเดิมขนาดเล็กกว่าระดับ 200 นาโนเมตร ลงไปอยู่ที่ขนาดเล็กในระดับ 50 นาโนเมตรได้แล้วในปัจจุบัน หรือเรียกว่าสามารถมองเห็น ไวรัส ได้แล้วนั่นเอง ด้านดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ระดับนาโน นาโนเทค อธิบายถึงการพัฒนาเทคนิควิธีการ ที่ทำให้ 3 นักวิทยาศาสตร์พิชิตรางวัลโนเบล ว่า มี 2 เทคนิค โดยเทคนิคแรก คือเทคนิคที่เรียกว่า STED (stimulated emission depletion) พัฒนาขึ้นโดย สเตฟาน ดับเบิลยู. เฮลล์ เป็นเทคนิค ที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเห็นอนุภาคและรายละเอียดขนาดเล็กในระดับนาโนเมตรได้ โดยไม่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน แต่จะอาศัยการทำงานของลำแสงเลเซอร์พร้อมกัน 2 ลำแสง ลำแสงแรกจะไปกระตุ้นให้โมเลกุลฟลูออเรสเซนท์เรืองแสงขึ้นมา ส่วนอีกลำแสงจะทำหน้าที่หักล้างลำแสงลำแรก โดยเว้นให้เหลือเส้นลำแสงแคบๆ เล็กๆ ในระดับนาโนเมตร เมื่อขยับส่องไฟฉายนาโนนี้ไปทีละนาโนเมตรทั่วๆ วัตถุก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นภาพที่มีความละเอียดในระดับนาโนเมตร ส่วน เทคนิคที่สอง คือ เทคนิคที่เรียกว่า single-molecule microscopy ซึ่งพัฒนาโดย เบตซิค และวิลเลียม อี.โมร์เนอร์ หลักการของเทคนิคนี้ อาศัยพื้นฐานความน่าจะเป็นที่จะเกิดการเรืองแสงของแต่ละโมเลกุลฟลูออเรสเซนท์ เมื่อกระตุ้นให้เกิดการเรืองแสงและใช้กล้องจุลทรรศน์ถ่ายภาพในตำแหน่งเดียวกันหลายๆภาพ จากนั้นก็นำภาพมาซ้อนกันและประมวลรวมให้เป็นภาพเดียว ก็จะได้ภาพความละเอียดสูงออกมา จากเทคนิคดังกล่าวทำให้นักวิจัยสามารถดูพัฒนาการ การเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นถึงระดับโปรตีน นำมาซึ่งการวิเคราะห์ทดสอบที่แม่นยำขึ้น เช่น การทดสอบการให้ยาซึมเข้าไปในเซลล์ ซึ่งแต่ก่อนมองไม่เห็นว่าโมเลกุลยาซึมเข้าไปในเซลล์ได้อย่างไร แต่ถ้าใช้วิธีการนี้จะมองเห็น สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการรักษามะเร็งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการนาโนเทค บอกว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า ศาสตร์ทางด้านนาโนเทคโนโลยี เริ่มถูกนำมาใช้ต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพให้เกิดวิทยาการที่ล้ำยุค ล้ำสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้รางวัลการันตีระดับโนเบลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักวิจัยไทยก็มีโอกาสใช้เทคนิคนี้ในห้องปฏิบัติการชั้นนำระดับโลกมาบ้าง และสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับประเทศไทยก็คือ ขณะนี้ นาโนเทคกำลังจะนำเทคนิควิธีการนาโน สโครป นี้ มาใช้ในต้นปี 2558 โดยเทคนิควิธีการ ดังกล่าวจะเป็นเทคนิคแรกที่นำมาใช้กับงานวิจัยของศูนย์นาโนเทค และยังเป็นเทคนิควิธีการแรกของประเทศไทย ที่จะนำมาใช้เพื่อพัฒนางานวิจัยนาโนเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งคาดหวังว่าเมื่อนักวิจัยไทยได้ใช้เทคนิคดังกล่าวในการทำงานวิจัยอย่างแพร่หลายแล้ว จะช่วยสร้างผลกระทบต่องานวิจัยไทยให้เกิดประสิทธิภาพของงานวิจัยที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ ทัดเทียมงานวิจัยระดับนานาชาติได้อย่างแน่นอน.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กล้องจุลทรรศน์นาโน พิชิตโนเบล
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs