รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย แจ้งว่า แนวโน้มสภาพคล่องในช่วงที่เหลือของปีนี้จะตึงตัวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาเป็นผลมาจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่นความชัดเจนแรงส่งเศรษฐกิจไทยที่เพิ่มขึ้นจะมีผลต่อความต้องการเงินทุนจากภาคเอกชนคาดว่าความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ในประเทศไม่ต่ำกว่า 380,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากการพิจารณายอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณสิ้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนอยู่ที่ 9.59 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 98,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.03% จากสิ้นปี 56 นอกจากนี้การออกหุ้นกู้ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ภาคเอกชนจะใช้เพื่อระดมทุนโดยเฉพาะในช่วงที่ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยในตลาดยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำโดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา มีการออกหุ้นกู้รวมแล้ว 390,000 ล้านบาทและคาดว่าในช่วงที่เหลือของจะมีการออกหุ้นกู้อีกไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาท สำหรับธนาคารพาณิชย์คาดว่าจะเสนอเงินฝากดอกเบี้ยสูงเพื่อระดมทุนรองรับการเติบโตของสินเชื่อหรือธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงมาเพื่อดึงดูดผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์ทางภาษี“ปริมาณเม็ดเงินที่นักลงทุนต่างชาติอาจมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากไทยหลังจากสหรัฐฯยุติมาตรการคิวอีจะทำให้ตลาดการเงินมีความผันผวน โดย ณ สิ้นเดือนก.ค.57 มียอดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้อยู่ถึง 778,000 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณสภาพคล่องที่ดูดซับโดยธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.ที่มียอดคงค้างกว่า 4.5 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือน ก.ค.2557 น่าจะทำให้ธปท.สามารถบริหารจัดการและจำกัดผลกระทบต่อตลาดเงินได้”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสิกรเผยความต้องการสินเชื่อพุ่งขึ้น

Posts related