เกือบ 2 เดือนเต็มกับการบริหารประเทศของรัฐบาล “ประยุทธ์ 1” ท่ามกลางสารพัดปัญหาที่ยุ่งเหยิง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงปัญหาท่องเที่ยว ที่ถือว่าเป็นหน้าตาเป็นภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ที่ผ่านมาก็มีปัญหาเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้จะถูกแก้ไขอย่างไร “เดลินิวส์” ขอนำรายละเอียดจากผู้กำกับดูแลเรื่องการท่องเที่ยว “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รมว.ป้ายแดงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาถ่ายทอดถาม : สิ่งที่ตั้งใจจะทำเมื่อเข้ามาเป็นเจ้ากระทรวงตอบ : มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวไทยในทุกด้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวในอนาคตที่ต้องมีทั้งความปลอดภัย และไม่กระจุกตัว ต้องทำให้ในแต่ละพื้นที่ และในชุมชนต่างได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องภาพลักษณ์ของความปลอดภัย จากกรณีที่เกิดขึ้น เช่น ที่เกาะเต่า หรือเหตุการณ์อื่น ๆ ที่สะท้อนถึงความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวนั้น หลายอย่างต้องหาวิธีป้องกันและแก้ไข โดยหลังจากนี้อาจต้องศึกษาในแต่ละแหล่งท่องเที่ยว ว่าสถานที่นั้น ๆ ต้องมีวิธีปฏิบัติตัวเมื่อไปท่องเที่ยวอย่างไรนอกจากนี้เรายังต้องหาทางเพิ่มอัตรากำลังของตำรวจท่องเที่ยวเนื่องจากขณะนี้มีอัตรากำลังน้อย ทำให้การควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวไม่ทั่วถึงนัก รวมไปถึงการใช้อาสาสมัครเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าสำคัญที่สุด และคนในพื้นที่คือกลุ่มที่จะดูแลและช่วยกันสอดส่องได้ดีที่สุด จากนี้ก็จะต้องปลูกฝังให้คนในพื้นที่รักพื้นที่ตัวเอง ดูแลพื้นที่ตัวเองให้มาก ๆ ช่วยกันดูแลสุดท้ายก็ย่อมมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในแหล่งท่องเที่ยวถาม : กังวลปัญหาใดในภาคท่องเที่ยวตอบ : ต้องยอมรับว่า ขณะนี้มีกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และอีกหลายประเทศ ที่พร้อมพัฒนาและต้อนรับนักท่องเที่ยว และประเทศในกลุ่มนี้เป็นประเทศเปิดใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่น่ากังวล นักท่องเที่ยวให้ความสนใจจำนวนมาก หากไทยไม่เพิ่มสถานที่ท่องเที่ยวอาจทำให้ไทยถูกแย่งนักท่องเที่ยวไปได้อย่างไรก็ดีปัญหาในด้านสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตามมาภายหลังการท่องเที่ยวไทยมีความเจริญรุดหน้าไปมาก แต่สิ่งที่ตามมาข้างหลัง นั่นก็คือ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาความไม่ปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว ปัญหาขยะ นี่เองจึงทำให้การเข้ามารับตำแหน่ง ต้องเน้นการทำงานทั้งในพื้นที่ เพื่อให้เห็นความเป็นอยู่จริง เพื่อให้เข้าใจในแต่ละแหล่งท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็จะต้องเดินสายหารือกับกระทรวงต่าง ๆ ในการหารือเพื่อบูรณา การการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้มีภาพลักษณ์ที่ดีในทุก ๆ ด้านได้ถาม : จะแก้ปัญหาที่สั่งสมมานานอย่างไรตอบ : ตอนนี้มีแนวทางที่จะปรับปรุง พระราชบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทั้งภาคการท่องเที่ยว และภาคการกีฬา โดยที่เตรียมนำเสนอเข้า ครม. ไปแล้วมีประมาณ 7 ข้อ และล้วนเป็นเรื่องเร่งด่วน เช่น เรื่องปัญหามัคคุเทศก์ต่าง ๆ ที่มีปัญหาอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องการขาดแคลนมัคคุเทศก์ หรือกลุ่มมัคคุเทศก์ที่ผิดกฎหมาย หรือ ไกด์เถื่อน ซึ่งปัจจุบันเป็นปัญหาที่ส่งผลกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวมานานขณะเดียวกันโรงแรมนอกระบบ หรือโรงแรมที่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย หลังจากนี้ก็จะมีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ต่าง ๆ หรือหาแนวทางอื่น ๆ เข้ามาแก้ไข เช่น ทำพื้นที่ท่องเที่ยวในแต่ละแหล่งท่องเที่ยวให้มีความชัดเจนในด้านต่าง ๆ หรือเรียกว่า การจัดโซนนิ่ง อาทิ จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวแออัด จังหวัดที่มีการแข่งขันทางด้านที่พักสูง ในอนาคตอาจจะมีการจำกัดด้านจำนวนโรงแรมในแต่ละพื้นที่ถาม : แผนเร่งกู้สถานการณ์ท่องเที่ยวตอบ : การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ มีปัญหาเฉพาะหน้าที่จะต้องแก้ไข เพื่อให้การทำงานสามารถเดินหน้าต่อไปได้ หลังจากหยุดชะงักมาในช่วงหนึ่ง โดยการกระตุ้นระยะสั้น จะใช้โครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาด เป็นตัวชูโรงโหมโปรโมตการท่องเที่ยวไทย ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานสำคัญภายใต้กระทรวง จะจับมือกับภาคเอกชนและบริษัทนำเที่ยวจำนวน 200 ราย ร่วมนำเสนอขาย 12 เมืองรอง ตั้งเป้าขายได้จำนวน 30,000 แพ็กเกจ สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกต่อจากนี้ไปเสนอขายในงาน ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวล มาร์ท ที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยเป็นอันดับ 1 และจะเตรียมไปสร้างความเชื่อมั่นในงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว ในงานเวิลด์ทราเวลมาร์เกต ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วยถาม : ระยะยาวจะทำอย่างไรต่อไปตอบ : ในระยาว กระทรวงจะจัดทำยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวฉบับใหม่ โดยให้สอดรับกับแผนพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อผลักดันให้รายได้ทางการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น และเป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งก็ตั้งใจที่จะเข้าหารือกับกระทรวงคมนาคม พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ตามแผนที่กระทรวงคมนาคมจะพัฒนาเส้นทางระบบรางต่าง ๆ เพราะเชื่อว่าเมื่อมีความเจริญไปถึงที่ใดก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้นตามมาด้วย ซึ่งเราก็จะต้องเตรียมพร้อมที่จะพัฒนาทั้งในด้านการทำตลาด และด้านความพร้อมเรื่องความปลอดภัยสุดท้ายนี้… ต้องยอมรับว่า การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ ถือเป็นงานหินของ “รมว.หญิงคนแรก” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะนอกจากเข้ามาในช่วงที่ต้องสะสางปัญหาของบ้านเมืองที่สั่งสมมานานแล้ว ยังต้องเข้ามาช่วยผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้กลายเป็นภาคอุตสาหกรรมหลักของเศรษฐกิจ ที่ทำรายได้เข้าประเทศให้ได้มากที่สุดเพื่อทด แทนรายได้จากการส่งออก ซึ่งการออกนโยบายให้เห็นเป็นภาคการท่องเที่ยวแบบมหภาคถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนั่นคือ กรอบใหญ่ ที่ รมว.กอบกาญจน์ ต้องเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน ที่ต้องรอพิสูจน์ผลงานกันต่อไปว่าจะถึงฝั่งหรือไม่?.เอวิกานต์ บัวคง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กอบกาญจน์เร่งแก้ภาพลักษณ์ดันท่องเที่ยวไทยปลอดภัย…

Posts related