ด้วยเทรนด์การใช้งานมือถือที่มากขึ้น คนทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงหันไปทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่ม ขึ้นด้วย

นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด เล่าว่า จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีนักการตลาดต้องมองตลาดออกเช่นกัน โดยเฉพาะในยุคดิจิตอลที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ด้วยพฤติกรรมของคนไทยปัจจุบันมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ใน 1 วัน คิดเป็น 80% และ 73% ผ่านแท็บเล็ต ในขณะที่ 55% ยังใช้อินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

ดังนั้น การตลาดดิจิตอลที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกปี และมีธุรกิจที่แปลกใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และด้วยการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้น การทำตลาดบนโทรศัพท์มือถือจึงได้รับความนิยมและมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

“ปัจจุบันนักการตลาดยังใช้งบที่สูงในการโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งสลับกับการโฆษณาผ่านสมาร์ทโฟนที่ใช้งบน้อยที่สุดแต่กลับได้รับอิทธิพลจากผู้ใช้งานมือถือในการเข้าถึงการโฆษณานั้น ๆ มากกว่า”

การเติบโตของตลาดดิจิตอลดังกล่าว นี้ ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกเรดดี้ แพลนเน็ตมีอัตราการเติบโตถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าตลอดทั้งปีจะเติบโตประมาณ 50%

ทั้งนี้ จากผลสำรวจพบว่า การโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลจะเพิ่มขึ้นเป็น 75% ในอีก 5 ปีข้างหน้า แสดงให้เห็นว่า การโฆษณาผ่านดิจิตอลจะเติบโตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่วนใหญ่จะมุ่งมาทางโทรศัพท์มือถือ

อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือของไทยปีนี้ พบว่า 41% และถ้าธุรกิจไหนที่ไม่ทำ การตลาดผ่านมือถือ จะถือว่าขาดลูกค้าไป 41% ซึ่งผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซก็ต้องคัดสรรและดัด แปลงลดขนาดรูปภาพเพื่อรองรับการค้าขายสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม 5 เทรนด์การตลาดดิจิตอลในปีหน้า คือ 1. Sharing Economy 2. Internet of Things 3. Mobile Wallet 4. Digital Streaming และ 5. Beacon Technology โดยคาดว่า Sharing Economy หรือเศรษฐกิจแบ่งปัน จะเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะประหยัดได้รับประโยชน์ร่วมกัน เช่นธุรกิจของ Uber ซึ่ง เป็นแอพพลิเคชั่นที่ตอบสนองให้กับคนที่จะเดินทางไปทางเดียวกันสามารถขึ้นรถรับจ้างคันเดียวกันได้

หรือ Instacart การรับจ้างซื้อของในซูเปอร์มาร์เกตให้กับลูกค้า รวมไปถึงการนำห้องพักหรือบ้านตากอากาศที่ยังว่างอยู่เข้ามาแชร์ใช้ร่วมกัน ผ่านแอพ airbnb ซึ่งเจ้าของบ้านจะสามารถนำห้องที่เหลือ หรือบ้านทั้งหลัง มาให้บริการกับผู้ที่จะเข้าพัก ในลักษณะเดียวกับโฮมสเตย์ ซึ่งอนาคตจะเข้ามาดึงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งบริการดังกล่าวจะทำผ่านสื่อออนไลน์หรือแอพพลิเคชั่นทั้งสิ้น

และด้วยการเติบโตของสื่อโซเชียลมีเดีย ทำให้สื่อเหล่านี้กลายเป็นช่องทางที่บริษัทและเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ จะหันมาใช้เพื่อเป็นช่องทางขายสินค้าและบริการได้มากขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบัน ผู้ใช้งานจึงได้เห็น เฟซบุ๊ก ยูทูบ ไลน์ และกูเกิล ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการขายสินค้าให้กับธุรกิจต่าง ๆ ด้วยวิธีที่หลากหลายและซับซ้อนมากกว่าที่จะเป็นการโฆษณาแบบชัดเจน ถือเป็นสื่อที่สำคัญที่เจ้า ของสินค้ายุคใหม่จะมองข้ามไม่ได้

ปัจจุบันลูกค้าของเรดดี้แพลนเน็ตกว่า 14,000 เว็บไซต์ ได้เริ่มหันมาสนใจที่จะทำการตลาดผ่านมือถือกันมากขึ้นเช่นกันเพราะค่าโฆษณาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับสื่ออื่น ๆ.กัญณัฏฐ์ บุตรดี
Kanyanat25@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : การตลาดยุคดิจิตอล อย่ามองข้ามมือถือ

Posts related