นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ79.2ลดลงจากระดับ80.1ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ5เดือนนับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามาบริหารประเทศเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและของโลกยังไม่ฟื้นตัวรวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรทรงตัวระดับต่ำโดยเฉพาะข้าว และยางพารา,ที่การส่งออกติดลบมากสุดในรอบ32เดือนและการท่องเที่ยวยังซบเซาส่งผลให้ผู้บริโภคมีความกังวลกับรายได้ในอนาคต “ยอมรับว่าช่วงนี้ถือเป็นช่วงเศรษฐกิจขาลงประกอบกับค่าครองชีพยังทรงตัวในระดับสูงแต่ผู้บริโภคมองว่ารายได้เข้ากระเป๋าไม่เพิ่มตามค่าครองชีพส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงเกือบทุกตัวยกเว้นเรื่องความดัชนีความคิดเห็นสถานการณ์ทางการเมืองที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ89เดือนหรือสูงสุดเท่าที่มีการสำรวจ” นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัจจัยที่มีผลลบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีเพิ่มมากขึ้นดังนั้นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ3เดือนของรัฐบาลถือว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับรากหญ้าและการสร้างความเชื่อมั่นการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นอย่างดีโดยเฉพาะมาตรการลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ชาวนาไร่ละ1,000บาทต่อครัวเรือนวงเงินรวม 40,000ล้านบาทเนื่องจากเงินจะส่งสู่ระบบในระดับรากหญ้าได้รวดเร็วหรือประมาณเดือนพ.ย.นี้ ทั้งนี้หอการค้าฯประเมินว่าเม็ดเงิน40,000ล้านบาทในการช่วยเหลือชาวนาจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่4ของปี57ขยายตัวเพิ่มอีก0.3-0.5%จากเดิมที่ประเมินเศรษฐกิจในไตรมาสที่4ขยายตัวในระดับกว่า3%

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ย.ลดครั้งแรกในรอบ5เดือน

Posts related