นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตรอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้ประเมินผลศึกษาการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งจาก 21.38 บาท ต่อ กก. เป็น 22 บาท และก๊าซเอ็นจีวีจาก 10.50 เป็น 11.50 บาทต่อกก. พบว่ามีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อเพียง 0.0025% เนื่องจากรถบรรทุกและรถปิ๊กอัพที่บรรทุกสินค้าส่วนใหญ่ 96% จะใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งกระทรวงพลังงานตรึงราคาที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร และที่สำคัญปัจจัยหลักที่มีน้ำหนักในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อจะมาจากอาหารสดและเครื่องดื่ม, สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และราคาพลังงาน“เงินเฟ้อที่เพิ่ม 0.0025% เป็นการศึกษาที่รวมถึงผลกระทบจากกรณีที่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารทั้งรถเท็กซี่ และรถสาธารณะอื่นหมดแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของรถเท็กซี่หากพิจารณาการวิ่งรถ 1กะหรือประมาณ 8 ชม. ในระยะทางเฉลี่ย 300 กม. ก็จะทำให้ต้นทุนของรถเท็กซี่เพิ่มอีก 12-13 บาทต่อกะ เท่านั้นซึ่งถือว่าน้อย อย่างไรก็ตามในส่วนของอัตราค่าโดยสารรถเท็กซี่คงทีมานานนับ 10 ปีแล้ว”นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของราคาสินค้านั้นกรมการค้าภายในมองว่าการปรับขึ้นแอลพีจีและเอ็นจีวีภาคขนส่งไม่สามารถเป็นข้ออ้างในการขอปรับขึ้นราคาสินค้าของผู้ประกอบการได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการรายใดมีต้นทุนการผลิตที่สูงจริงๆไม่ว่าจะเป็นต้นทุนจากอะไรก็สามารถเสนอมายังกรมฯได้ ซึ่งกรมฯจะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆฝ่ายต่อไป ส่วนรายการสินค้าที่ติดตามดูแล สินค้า บัญชีสินค้าอ่อนไหวเป็นพิเศษ และบัญชีสินค้าที่ต้องติดตามภาวะและสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพิเศษนั้นในเบื้องต้นยังไม่มีรายการใดขอปรับขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ค่าก๊าซ-ค่าโดยสารพุ่งกระทบเงินเฟ้อแค่ 0.0025%

Posts related