นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการโครงสร้างพื้นฐาน และด่านศุลกากรว่า ขณะนี้กระทรวงฯ กำลังเร่งสรุปรายละเอียดแผนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ด่านศุลกากร จุดผ่านแดน และแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) ใน 5 เขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 ด่าน คือ แม่สอด จ.ตาก อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, ชายแดน จ.ตราด, ชายแดน จ.มุกดาหาร, ด่านศุลกากร สะเดา และด่านศุลกากรประดังเบซาร์ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ภายในวันที่ 28 ส.ค. นี้สำหรับงบประมาณลงทุน ในส่วนของกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นมีโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม เช่น ถนน รถไฟ รวม 40 โครงการ วงเงิน 122,965 ล้านบาท และยังมีงบประมาณของหน่วยงานอื่นอีก เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานศุลกากรอีก 10 โครงการ วงเงิน 5,146 ล้านบาท รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานนิคมอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ กระทรวงฯยังไม่ได้สรุปงบประมาณ เพราะกำลังพิจารณาเพิ่มโครงการเข้ามาอยู่ในแผนเพิ่มเติมอีกหลายโครงการทั้งนี้ ประกอบด้วย การใช้งบ 40 ล้านบาท เพื่อศึกษาความคุ้มค่าของโครงการลงทุนรถไฟรางคู่เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระบบไฟฟ้า ระยะทาง 70 – 80 กม. ขนาดราง 1 เมตร ซึ่งจะศึกษาภายในปี 58-59 เพื่อช่วยรองรับการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียที่มีมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาท การพัฒนาสนามบินเลิงนกทา จ.ยโสธร เป็นสนามบินเพื่อการพาณิชย์ เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าของ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร ซึ่งมอบหมายให้กรมการบินพลเรือนไปศึกษาวงเงิน 8 ล้านบาทนางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยังเสนอให้พัฒนารถไฟสายใหม่ ช่วงพิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-แม่สอด เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันของเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดและการค้าชายแดน ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเส้นทางที่อยู่ระหว่างศึกษาออกแบบจากขอนแก่น (บ้านไผ่) –ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบังด้วย ในขณะที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) ของบประมาณ 58 เพื่อศึกษาความเหมาะสมรถไฟทางคู่สายนครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-แม่สอดส่วนการแก้ปัญหาความแออัดบริเวณด่านแม่สอดนั้น บพ. เห็นชอบให้กรมศุลกากรใช้พื้นหน้าสนามบินแม่สอดเพื่อเป็นจุดตรวจสินค้าจากด่านศุลกากรแม่สอดที่ปัจจุบันมีปัญหาแออัด ใช้งบประมาณปรับปรุง 26.8 ล้านบาท จะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 8 เดือน ซึ่งจะลดความแออัดหน้าด่านได้ รวมถึงมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จ.ตาก เช่น การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 ขยายทางหลวงหมายเลข 12 (ตาก-แม่สอด) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบัง ศูนย์บริการรถบรรทุกและสถานีขนส่งสินค้าชายแดนและขยายท่าอากาศยานแม่สอด ส่วนพื้นที่ จ.สระแก้ว จะขยายทางหลวง 359 (ตราด-หาดเล็ก) จุดพักรถบรรทุกสินค้า เป็นต้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชงโครงสร้างพื้นฐานส่งประยุทธ์

Posts related