เมื่อเวลา 7.00น. วันที่ 24ธ.ค.นี้ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง จนต้องหยุดให้บริการตั้งแต่ในช่วงเช้าของวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนที่ยังไม่ทราบข่าวรถหยุดให้บริการ มายืนรอที่สถานีจำนวนมาก ดังนั้นต่อไปบีทีเอสจะต้องมีการปรับปรุงการสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวให้ประชาชนรู้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้ง นี้ ยอมรับว่าการหยุดให้บริการของบีทีเอสในช่วงเช่าได้ส่งผลกระทบกับการเดินทาง ของประชาชนจำนวนมาก ต้องเปลี่ยนไปเดินทางรูปแบบอื่น ทั้งแท็กซี่ รถเมล์ รถตู้ ส่งผลให้การจราจรทางถนนติดขัดอย่างหนัก เบื้องต้น กระทรวงคมนาคมได้แก้ไขปัญหาด้วยการประสานให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสม ก.) เพิ่มจำนวนรถเมล์ในเส้นทางที่ทับซ้อนกับบีทีเอสให้มากขึ้น รวมทั้งให้นำรถชัตเติล บัส 10 คัน ออกมาวิ่งให้บริการฟรี เพื่อช่วยเร่งระบายผู้โดยสารที่ตกค้างจากบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสวนจตุจักร ไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ และสีลม นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ยังประสานไปยัง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้เตรียมเจ้าหน้าที่และพนักงานไว้คอยอำนวยความสะดวก ในการรองรับการถ่ายโอนผู้โดยสารจากบีทีเอสมายังรถไฟฟ้าใต้ดินด้วย โดยเฉพาะทางเชื่อมต่อสถานีของบีทีเอส บริเวณสถานีสวนจตุจักร ศาลาแดง และอโศก และให้มีการตั้งโต๊ะขายตั๋วรายวันเพิ่ม เพราะผู้โดยสารที่ถ่ายโอนมาส่วนใหญ่ยังไม่มีตั๋วเดือนของรถไฟฟ้าใต้ดิน “วันทำงานปกติจะมีคนเข้ามาใช้บริการบีทีเอสเฉลี่ยประมาณ 6-7 แสนเที่ยวต่อวัน หากคิดเฉพาะช่วงเช้าหรือระยะเวลาเร่งด่วน จะมีประมาณ2-3 แสนเที่ยวต่อวัน ขณะที่รถไฟฟ้าใต้ดินปกติรองรับคนได้ประมาณ 2 แสนเที่ยวต่อวันเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคนจากบีทีเอสแห่กันมาใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาคอขวดที่จุดขายตั๋ว จะเห็นได้ว่าคนรอเข้าคิวซื้อตั๋วแบบหยอดเหรียญยาวมาก รอนนานกว่าครึ่งชั่วโมง ผมจึงสั่งการให้ตั้งเคาเตอร์ขายตั๋วรายวันเพิ่ม รวมทั้งให้รักษาระยะความถี่การให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงละ3 นาที ออกไปจนถึงช่วงสาย เพื่อเร่งระบายผู้โดยสารออกจากระบบ” นอก จากนี้ ยังขอความร่วมมือให้เรือคลองแสนแสบเพิ่มความถี่ในการให้บริการในช่วงชั่วโมง เร่งด่วนออกไปจนถึงช่วงสาย เพื่อรองรับประชาชนจากบีทีเอส สถานีสุขุมวิท ที่จะเดินทางมาจากคลองตัน ซึ่งจากรายงานทราบว่ามีประชาชนเข้าไปใช้บริการเรือคลองแสนแสบจำนวนมากกว่า ปกติ นายชัชชาติกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้รถไฟฟ้าบีทีเอสหยุดวิ่งว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บีทีเอสแจ้งว่า เกิดจากระบบอาณัติสัญญานขัดข้อง เนื่องจากบีทีเอสได้ติดตั้งระบบซอฟแวร์ควบคุมประตูกันตกบริเวณสถานีเข้าไปยังศูนย์ข้อมูลกลาง และเกิดปัญหาส่งสัญญานผิดพลาดจนส่งผลกระทบไปยังระบบอาณัติสัญญานที่ควบคุมการเดินรถทำให้การเดินรถต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ธ.ค. ได้มอบมายให้นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม เรียกประชุมทุกหน่วยงานในสังกัดที่รับผิดชอบดูแลระบบขนส่งสาธารณะ หามาตรการรองรับรวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วง เทศกาลปีใหม่ ที่มีประชาชนเดินทางจำนวนมาก ต่อมาเวลา 14.30 น. นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กรมการขนส่งทางบก บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล กรมเจ้าท่า และกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดมาตรการให้บริการแก่ประชาชน เพื่อกรณีเกิดเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง โดยประเมินว่า เหตุรถไฟฟ้าบีทีเอสเสียเมื่อช่วงเช้า ได้กระทบต่อผู้ใช้บริการ 2-3 แสนคน ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มขึ้น หลายหมื่นคน เช่นเดียวกับรถ ขสมก. เรือด่วน แท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง สำหรับแนวทางแก้ปัญหาได้ข้อสรุปว่า ต่อไปรถไฟฟ้าบีทีเอส และกระทรวงคมนาคมต้องประสานข้อมูลอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทราบทันทีหากเกิดปัญหาไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชรับทราบ และจัดเตรียมรถเมล์ เรือโดยสาร หรือรถไฟ ไว้รองรับประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดย ขสมก.จะเป็นหน่วยงานหลักในการขนส่งผู้โดยสาร เตรียมรถเมล์สำรองไว้ทุกจุด โดยเฉพาะจุดที่ใช้บริการมาก เช่น สถานีสีลม สถานีสุขุมวิท ขณะเดียวกันยังให้กรมการขนส่งทางบกส่งผู้ตรวจประมาณ 100 คน และผู้ตรวจของ ขสมก.ออกไปให้บริการประชาชนตามจุดต่างๆบนท้องถนนด้วย รวมถึงบริการรถไฟฟ้าใต้ดิน และการจองตั๋วให้เพียงพอ “เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นจากระบบขนส่งมวลชนที่ไม่สามารถให้บริการได้ จะต้องประกาศข่าวแจ้งประชาชนให้ทราบทันที เพราะเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ธ.ค.56 เกิดความวุ่นวายมาก เพราะคนไม่รู้ว่าเกิดปัญหาขัดข้องของรถไฟฟ้าบีทีเอส หากรับรู้ก่อนจะสามารถหลักเลี่ยงไปใช้บริการอื่นได้ทัน และหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะประสาน กทม.ให้ตั้งทีมทำงานร่วมกันบริหารความเสี่ยง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอีก”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “ชัชชาติ” ระดมรถเมล์ -รถไฟฟ้าใต้ดินระบายคนตกค้าง
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs