แหล่งข่าวจากวงการน้ำมัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันกำลังพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันใน 1-2 วันนี้เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยวันที่ 15 ต.ค.ราคาดิบดูไบ ลดลง 4.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 83.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเบรนท์ ลดลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่83.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซิน ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิด 97.51ดอลลาร์ต่อบาร์เรลดีเซล ลดลง 4.33 ดอลลาร์ ปิด 96.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันอยู่ในเกณฑ์สูง โดยกลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตรราคาดีเซล 1.70 บาทต่อลิตรนายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวในงานอบรมความรู้ด้านพลังงานภาคประชาชน เรื่อง"รู้ทันสถานการณ์พลังงานประเทศไทย"ว่าขณะนี้เป็นจังหวะเหมาะสมที่สุดที่รัฐบาลจะตัดสินใจปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) เพราะราคาตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่องต่ำกว่า 90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลดังนั้นหากไม่เร่งปรับราคาภายในเดือนต.ค. – พ.ย.57ราคาอาจกลับมาสูงอีกครั้งในช่วงเดือนธ.ค. 57 เพราะเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้มีความต้องการใช้เชื้อเพลิงปริมาณมากล่าสุดราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์มีแนวโน้มลดลงอีก 1 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ทำให้วันที่ 17 ต.ค. อาจเห็นการประกาศปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลล่าสุดราคาขายปลีกอยู่ที่ 29.39 บาทต่อลิตรไม่ควรปรับลดลงอีก แม้ตลาดโลกจะมีแนวโน้มลดลงได้อีก 50 สตางค์ต่อลิตรเพราะควรนำส่วนต่างดังกล่าวไปบวกเพิ่มในอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะปัจจุบันยังมีฐานะติดลบ 3,300 ล้านบาทซึ่งปัจจุบันมีรายรับ 175 ล้านบาทต่อวันคาดว่ากองทุนน้ำมันฯจะมีฐานะเป็นบวกภายใน3 สัปดาห์จากนี้ "อยากเสนอให้รัฐบาลปรับโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลในช่วงนี้เลยโดยสามารถคงราคาขายปลีกดีเซลไว้ที่ 29.39 บาทต่อลิตรไม่มีผลกระทบต่อประชาชน ขณะเดียวกันควรปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนฯจากปัจจุบัน3 บาทต่อลิตร เหลือ 75 สตางค์ต่อลิตรและนำส่วนที่ลดลงไปเพิ่มในอัตราภาษีสรรพสามิตรเป็น 3 บาทต่อลิตรแทน จากปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 75 สตางค์ต่อลิตรเพื่อให้ใกล้เคียงกับการเก็บภาษีสรรสามิตรราคาน้ำมันเบนซินเพราะช่วง 3 ปีครึ่งที่ไม่เก็บภาษีสรรพสามิตไทยขาดรายได้ 350,000 ล้านบาท"

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชาวบ้านเตรียมเฮ! หลังผู้ค้าน้ำมันล่อแววลดราคาอีกรอบ

Posts related