นางสร้อยทิพย์  ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายให้ทำแผนจัดหารถเมล์เอ็นจีวีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 3,183  คัน พร้อมมีข้อเสนอแนะให้ ขสมก.พิจารณาเร่งรัดจัดหาและส่งมอบรถเมล์บางใหม่ให้ทันในปลายปี 57 เพื่อให้บริการแก่ประชาชนหลังจากรอมานาน 8 ปี ส่วนวิธีการจัดหา และจำนวนคันรถที่ต้องซื้อ ขสมก.จะต้องสรุปรายละเอียดเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่มี พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบกเป็นประธาน และรายงาน คสช.ต่อไป “นโยบาย คสช. ต้องการให้ ขสมก. หาแนวทางความเป็นไปได้ส่งมอบรถเมล์ใหม่บางส่วนเข้ามาให้ทันในปีนี้ แต่วิธีการ รายละเอียดเป็นเรื่องที่ ขสมก.จะต้องไปคิดว่า จำนวนกี่คัน และใช้วิธีการอะไร” นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องมีการเร่งรัดส่งมอบรถเมล์ใหม่บางส่วน เนื่องจากโครงการนี้ดำเนินมานานกว่า 8 ปีแล้วยังไม่สามารถดำเนินการเปิดประกวดราคาจัดหาได้ ในขณะที่รถเมล์ ขสมก.ที่มีอยู่ขณะนี้มีสภาพที่ทรุดโทรมมาก  ดังนั้น คสช.จึงต้องเร่งรัดให้จัดหารถใหม่บางส่วนเข้ามาก่อนเพื่อนำมาให้บริการแก่ประชาชน แต่ขณะเดียวกัน คตร.มีการตรวจสอบความโปร่งใสและขั้นตอนดำเนินโครงการทั้งหมดไปด้วย นายวีระพงศ์ วงแหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. (สร.ขสมก.) กล่าวว่า ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหาร ขสมก.ได้เชิญทาง สร.ขสมก.เข้าไปรับทราบนโยบายของ คสช.ว่า มีข้อสั่งการพิเศษให้เร่งรัดการจัดซื้อรถเมล์รอบแรกเพียงบางส่วนก่อนเพื่อส่งมอบให้ทันภายในปีนี้ ส่วนที่เหลือค่อยใช้วิธีนำเข้ามาเพื่อประกอบภายในประเทศเพื่อช่วยสร้างงานและรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทย  “สร. ขสมก. เห็นด้วยที่ประชาชนจะมีโอกาสได้รับบริการที่ดีขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ขอให้ดำเนินการจัดซื้ออย่างโปร่งใสและสุจริต และไม่อยากให้นำเข้ารถสำเร็จรูปทั้งคันจากจีน เพราะคุณภาพไม่ดี แต่ถ้าเลือกรถญี่ปุ่นและยุโรปจะมีคุณภาพดีกว่า เพราะรถเมล์รุ่นเก่าที่ ขสมก.ใช้อยู่มีอายุ 17 – 23 ปี แต่ถ้าเป็นรถเมล์จีนใช้ 10 ปีก็พบว่ามีปัญหา” นายวีระพงศ์กล่าวว่า การนำเข้ารถเมล์ลอตแรกที่มีความเป็นไปได้ คือ การจัดหารถร้อน 500 คัน และรถปรับอากาศ 500 คัน  เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในช่วงแรก  ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนการรับมอบรถส่วนที่เหลือให้ครบภายในปี 58 เพราะกำลังการผลิตสามารถประกอบรถได้ 100–200 คันต่อเดือน ด้านนายนเรศ บุญเปี่ยม ผอ. ขสมก. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ชี้แจงข้อมูลการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีแก่ คตร.  แต่เบื้องต้น คสช.มีนโยบายให้จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีอยู่แล้ว พร้อมกำหนดต้องส่งมอบรถทั้งหมด 3,183 คันให้ได้ภายในปี 58  เนื่องจากรถเมล์เดิมใช้มานานจนเก่ามาก อีกทั้งเพื่อสอดคล้องกับแผนการขยายเส้นทางรถเมล์ใหม่ให้ครอบคลุม และเพิ่มบริการให้ประชาชนสะดวกสบาย ปลอดภัย “ตามหลักแล้ว หากส่งมอบรถเมล์ทั้งหมดภายในปี 58  จะต้องเปิดประมูลและทำสัญญาให้เสร็จภายในปีนี้  จึงจะทยอยส่งมอบได้ทัน  ส่วนการจัดซื้อรถรอบนี้ จะเพียงพอต่อการให้บริการอีกไม่ต่ำกว่า 10 ปี และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิ 2 ใน 3 เพราะเปลี่ยนจากดีเซลเป็นเอ็นจีวี” พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ ขสมก. กล่าวว่า  พร้อมดำเนินตามนโยบาย ขสมก.และเห็นด้วยต้องเร่งรัดจัดหารถเมล์ใหม่ โดยหลักการจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และองค์กรด้วย  และจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการนัดแรกในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จากนั้นจะนำรายละเอียดเรื่องที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วนเข้ามาพิจารณาเพื่อตัดสินใจ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ซื้อเมล์เอ็นจีวี3,000คัน

Posts related