นายศุกรีย์ สิทธิวณิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อในขณะนี้ ททท.ได้ทำการประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวอีกครั้งและคาดการณ์ว่า กำลังเข้าสู่สมมุติฐานที่ร้ายแรงที่สุดอยู่ในระดับที่ 3 คือ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง เหลือ 26.3 ล้านคน จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายปี 57ไว้ที่ 28.4 ล้านคนและลดจากเป้าปีก่อน 0.7% ขณะเดียวกัน ด้านรายได้จากการท่องเที่ยวคาดว่า จะอยู่ที่ 1.24 ล้านล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 1.32 ล้านล้านบาท โดยการประเมินครั้งนี้ทำให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวเติบโตต่ำสุด ครั้งแรกในรอบ5 ปีที่ตั้งแต่เหตุการณ์ ปิดสนามบินและ การก่อจราจลเผาห้างเซนทรัลเวิร์ลในปี 51และ52“จาก สถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปลายปี56 และขณะนี้ก็ยังมองไม่เห็นแนวโน้มที่จะจบลง ซึ่งก็ถือว่ายืดเยื้อเกือบจะครึ่งปีแล้ว จึงทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากเอเชียลดลงเป็นจำนวนมาก โดยจากการเก็บตัวเลขตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย.เอเชียเหนือ ลดลง 19.25% ,อาเซียนลดลง 1.49% ,เอเชียใต้ลดลง11.23% ,ตะวันออกกลาง ลดลง 5.53% และโอเชียเนีย ลดลง 0.35% อย่างไรก็ตาม ททท.จะต้องทำการสรุปภาพรวม ด้านเป้าหมายและจำนวนรายได้ในปี 57 เป็นเอกสารที่ชัดเจน อีกครั้ง และนำไป ชี้แจงกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เพื่อ ทำการปรับตัวชี้วัดอีกครั้งภายในเดือน มิ.ย.นี้”ทั้ง นี้ในส่วนของจำนวนรายได้ที่ยังไม่ลดลงนั้นเนื่องจากตลาด ยุโรปยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ดี โดยภูมิภาคยุโรป เติบโต 7.63%,ภูมิภาคอเมริกา โต 0.48% ,แอฟฟริกาใต้ 16.60% ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปนั้นถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง ใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวเอเชียจึงทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวไม่ติดลบ ขณะเดียวกันภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอกับบริษัททัวร์ราย ใหญ่ (โฮลเซลล์) ที่นำนักท่องเที่ยวจากยุโรปมาไทย ว่า จะสามารถยืนยันจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาไทยตามเดิมได้หรือไม่หรือ จะปรับเพิ่มได้อีกเท่าไหร่เพื่อวางแผนทำการตลาดต่อไป สำหรับ กิจกรรมทางการตลาดที่จะยังคงยืนยันทำตามแผนเดิมและยกเลิกไม่ได้ คือ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย(ทีทีเอฟ)และ งานไทยแลนด์ ทราเวลมาร์ทพลัส(ทีทีเอ็ม)เพราะจะทำให้องค์กรและบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ ขาดความเชื่อมั่นลงทันที ส่วนแผนกลยุทธ์ใหม่นั้น ต่อจากนี้จะต้องหันมาจับมือกับ สายการบินและเว็บไซต์ท่องเที่ยวออนไลน์ เพื่อเจาะตลาดดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตนเอง(เอฟไอที)
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ททท.จ่อหั่นเป้ายอดนักท่องเที่ยวลง
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs