นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ไทยมีโอกาสที่จะส่งออกข้าวในระดับ 8.5-9 ล้านตัน ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดีย เนื่องจากราคาข้าวไทยเริ่มปรับตัวลดลงตามตลาดโลกหลังจากที่ไทยไม่มีนโยบายรับจำนำข้าว ประกอบกับไทยมีแผนระบายข้าวมากขึ้นทำให้คู่แข่งต้องทำราคาลดลงเพื่อรักษาตลาดไว้ ขณะที่ภาคเอกชนก็คงต้องทำงานหนักเพื่อรักษาตลาดข้าวไว้ให้ได้เช่นกันหลังจากที่สูญเสียตลาดข้าวให้กับคู่แข่งไปหลายตลาด และบางตลาดก็ส่งออกข้าวไปได้น้อยกว่าที่เคย “เรายังคงเดินหน้าขายข้าวไปในทุกตลาดที่เคยขายได้ โดยเฉพาะจีนที่เรายังส่งออกไปได้เรื่อยๆ มาเลเซียที่เคยหายไปก็จะกลับมาซื้อข้าวไทย 700,000-800,000ตันในปีนี้ ฮ่องกงก็เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากที่ลดนำเข้าข้าวเพราะเห็นว่าราคาสูงกว่าคู่แข่งช่วงที่มีโครงการรับจำนำแต่หลังจากไม่มีโครงการรับจำนำแล้วราคาข้าวไทยเริ่มปรับตัวลดลงตามตลาดโลก คิดว่าถึงสิ้นปีนี้ไทยน่าจะส่งออกได้ 8.5-9 ล้านตันแน่นอน” นายเจริญ กล่าวว่า ล่าสุด เอกชนไทยไม่ชนะการประมูลข้าวเพื่อส่งออกไปฟิลิปปินส์กว่า 800,000ตัน เพราะไทยเสนอราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่งคือเวียดนามถึงตันละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากไม่แน่ใจในราคาค่าขนส่งภายในประเทศของฟิลิปปินส์ ในเงื่อนไขการประมูลในครั้งนี้ได้ระบุว่าผู้ที่ชนะการประมูลจะต้องส่งมอบข้าวให้กับฟิลิปปินส์ถึงโกดังอย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาที่ไทยเสนอไปจะสูงกว่าเวียดนามตันละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อเทียบกับช่วงที่มีโครงการรับจำนำแล้วถือว่าส่วนต่างราคาไม่ได้มากนักเพราะช่วงที่รับจำนำราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งถึงตันละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้มาเลเซียได้เสนอราคาซื้อข้าวขาว 5% ของไทยจำนวน 800,000 ตันในราคาต่ำกว่าตลาดหรือต่ำกว่า 380 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคา ณ.ท่าเรือ (เอฟโอบี) ขณะที่ไทยต้องการราคาสูงกว่านั้นเนื่องจากเป็นข้าวในฤดูกาลใหม่ คาดว่าในเร็วนี้น่าจะได้ข้อสรุปเรื่องราคาในการซื้อขาย “ทิศทางราคาข้าวจากนี้ เชื่อว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยราคาข้าวขาว 5% เฉลี่ยที่ ตันละ 380 ดอลลาร์สหรัฐ ในปัจจุบัน แต่ในเดือนพ.ค.นี้ ประเมินว่าราคาข้าวจะขยับเพิ่มขึ้น จากปัจจัยผลผลิตขาดช่วง เป็นรอยต่อระหว่างสิ้นนาปรัง ก่อนจะเข้าสู่นาปี ปีการผลิต 2557/58 ซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาดอีกครั้ง พ.ย. 57 ดังนั้นในเดือน พ.ค. เป็นต้นไป ราคาข้าวมีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทั่วโลกแห่ซื้อข้าวราคาต่ำจากไทย
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs