นายสมพร  สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  แผนการทำตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้เน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและตลาดยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 56% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% ในปีหน้า  และลดสัดส่วนลูกค้ารายใหญ่มาอยู่ที่ 44% จากเดิมอยู่ที่ 60%   ดังนั้นจึงได้เปิดตัวแพกเกจประกันภัย 3 รูปแบบหรือทิพยพลัส โดยมี 3 หนุ่มคือ กบ-ทรงสิทธิ์  รุ่งนพคุณศรี  แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง  มอส-ปฏิภาน ปฐวีกานต์ มาเป็นพรีเซนเตอร์  เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำของลูกค้า  คาดว่าจะมียอดขายปีนี้ประมาณ 900 ล้านบาท และปี 58 เพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท สำหรับรูปแบบของประกันภัย ประกอบด้วย ทิพยมอเตอร์ 3 พลัส จุดเด่นคือราคาต่ำกว่าตลาด ขณะที่ทุนประกันภัยสูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งนอกจากจะให้ความคุ้มครองคู่กรณีและอุบัติเหตุแล้วยังดูแลถึงการใช้รถในชีวิตประจำวัน เช่น รถเสีย น้ำมันหมด แบตเตอรี่เสื่อม  และบริการพิเศษ เช่น รถยก รถลาก ยกเว้นค่าเสียหายส่วนแรก  โดยคิดเบี้ยประกัน 6,500 บาท ทุนประกัน 100,000 บาท เบี้ยประกัน 7,500 บาททุนประกัน 200,000 บาท เบี้ยประกัน 8,500 บาท ทุนประกัน 300,000 บาท เบี้ยประกัน 9,300 บาท ทุนประกัน 400,000 บาท  เบี้ยประกัน 10,000 ทุนประกัน 500,000 บาท  รับประกันอายุรถถึง 15 ปี ส่วนประกันที่อยู่อาศัยคือ ทิพย โฮม พลัส  ซึ่งให้คุ้มครองบ้านและทรัพย์สิน รวมถึงบุคคลที่ 3 ได้รับบาดเจ็บภายในบ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายจากไฟตก และกระจกแตกสามารถเคลมได้  ตลอดจนสัตว์เลี้ยงไปทำรายผู้อื่น ส่วนทิพย 40  พลัส เป็นประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ รับประกันตั้งแต่ 40-65ปี  พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มการคุ้มครองกระดูกแตกหัก และชดเชยค่ารถเข็นผู้ป่วย  ซึ่งใช้งบโฆษณาและประชาสัมพันธ์โครงการนี้ประมาณ 120 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่ปรับเบี้ยรับรวมใหม่  เพราะการออกแคมเปญต่อเนื่องจะทำให้เบี้ยได้ตามเป้าอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 12.5 % จากปี 56 ที่มีเบี้ยรับรวม 24,000 ล้านบาท  แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.) ที่ผ่านมาเบี้ยรับรวมลดลง  7% หรือต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 13,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบทั้งหมด  ส่วนแนวโน้มผลิตภัณฑ์ประเภทพลัสจะเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และราคาไม่แพง  แต่ให้ความคุ้มครองจำกัด  โดยเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดจะมีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 10% และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 12%

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทิพยะฯเปิดแผนครึ่งปีหลัง

Posts related