นายอิสรกุล อุณหเกตุ นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ได้เสนอให้แก้ไขร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม.มาตั้งแต่ปี 55 แต่ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา โดยให้แก้ไขมาตรา 14 กำหนดให้ครม.ออกพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต เพื่อช่วยลดต้นทุนปัญหาการขออนุญาตต่าง ๆ ของประชาชน ที่ต้องมาติดต่อกับหน่วยงานหลายแห่งให้เป็นไปในลักษณะคล้ายกับศูนย์บริการออกใบอนุญาตณ จุดเดียวทั้งนี้การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว ควรกำหนดเวลาของการขอรับอนุญาตให้ชัดเจน คู่กับการส่งเสริมให้ประชาชนใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ขออนุญาตจากภาครัฐ รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เผยแพร่คู่มือสำหรับประชาชน และการยื่นคำขออนุญาตผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพราะการกำหนดเวลา จะช่วยปิดช่องทางการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งผู้ขออนุญาตทันที หากรายการเอกสาร หรือหลักฐานไม่ถูกต้อง แต่ไม่ให้เรียกเอกสารเพิ่มเติม หรือปฏิเสธคำขอได้ หากรายการเอกสาร หรือหลักฐานถูกต้องแล้ว นอกจากนี้ยังกำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดทางวินัย หรือต้องถูกดำเนินคดี หากตรวจสอบคำขอ และรายการเอกสา รหรือหลักฐานโดยประมาทหรือทุจริต“แม้ว่าการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐ กฎหมายจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการควบคุมกิจกรรมทางสังคม และเศรษฐกิจ แต่หากควบคุมโดยใช้กฎหมาย และกฎระเบียบมากเกินไป ก็ย่อมสร้างภาระต้นทุนแก่สังคม และส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะขั้นตอนทางกฎหมาย และกฎระเบียบที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และใช้เวลานานเกินความจำเป็น ซึ่งในหลาย ๆ กรณีกระบวนการพิจารณาอนุญาต ทำให้เกิดความล่าช้ากับการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนในภาคธุรกิจ ขณะเดียวกัน ขั้นตอนพิจารณาอนุญาตเหล่านี้ ยุ่งยาก ซับซ้อน และใช้เวลานาน จึงสร้างต้นทุนมากเกินความจำเป็น และให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการใช้ดุลพินิจมาก ก็จะนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นได้”อย่างไรก็ตาม ยังเสนอให้ก.พ.ร.ประเมินต้นทุนการพิจารณาอนุญาตแต่ละแบบ ที่ประชาชนต้องรับภาระ ทั้งต้นทุนที่เป็นตัวเงิน และเวลารวมถึงความถี่ หรือปริมาณการขออนุญาตนั้น ๆ ก่อนเปิดเผยข้อมูลต้นทุนดังกล่าว ให้ประชาชนโดยทั่วไปรับทราบ โดยอาจกำหนดให้ต้องรายงานผลเป็นประจำทุกปี รวมทั้งต้องแก้ไขมาตรา6กำหนดให้ก.พ.ร.ปรับปรุงกฎหมาย เพื่อยกเลิกการอนุญาต หรือให้มีมาตรการอื่นแทนการอนุญาต โดยรับฟังความเห็นจากหน่วยงานผู้อนุญาต และผู้มีส่วนได้เสีย จากนั้นจึงเสนอให้ครม.พิจารณาสำหรับพ.ร.บ.ฉบับนี้ มีเป้าหมายที่ต้องการปรับปรุงการขออนุญาตภาครัฐ ทั้งในส่วนการประกอบธุรกิจ และการขออนุญาตต่าง ๆ ที่ประชาชนต้องขอจากภาครัฐ โดยเน้นปรับปรุงสองส่วนคือลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความโปรงใส เพิ่มความรับผิดชอบ ซึ่งการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพปัจจุบันการประกอบกิจการ หรือการดำเนินการต่าง ๆ ประชาชนต้องดำเนินการผ่านการอนุมัติการอนุญาต การออกใบอนุญาตการขึ้นทะเบียน โดยภาครัฐ เพราะกฎหมายหลายฉบับไม่ได้กำหนดระยะเวลา และขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทีดีอาร์ไอแนะตั้งวันสต๊อปเซอร์วิสบริการภาครัฐ

Posts related