นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เปิดเผยว่า ในปี 58 อพท. ได้รับจัดสรรงบประมาณ กว่า 154 ล้านบาท พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพัทยา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ภายใต้ชื่อ แลนด์มาร์คสีเขียว เพื่อปรับภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา จากเมืองท่องเที่ยวกลางคืน (ไนท์ ไลฟ์) ให้เป็นการท่องเที่ยวแบบกลุ่มทั่วไป หรือกลุ่มครอบครัวให้มากขึ้นสำหรับการปรับรูปแบบนั้น จะเน้นพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ในพัทยา ทั้ง เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ เทศบาลตำบลหนองปลาไหล เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ และ อบต.เขาไม้แก้ว โดยจะส่งเสริมให้เป็นแหล่งผลิตทางการเกษตร และการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ เช่น ส่งเสริมการปั่นจักรยานในชุมชน ที่ตำบลเขาชีจรรย์ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานการท่องเที่ยวเมืองพัทยา หากแผนต่าง ๆ ของอพท.โดยเฉพาะการฟื้นภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวได้ภายในปี 62 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพัทยา 15.24 ล้านคน พำนักเฉลี่ย 3.45 วัน มีค่าใช้จ่าย3,292 บาทต่อคน และมีรายได้ในพื้นที่รวมเฉลี่ย 169,000 ล้านบาท“ปัจจุบันเมืองพัทยา ยังมีพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีภาพลักษณ์ในเชิงไนท์ไลฟ์อยู่ แต่ อพท. ก็มีแผนว่า หากพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้ขึ้นมาได้ และปรับเปลี่ยนให้เป็นกิจกรรมเกษตร ท่องเที่ยวแบบประเพณีต่าง ๆ หากดำเนินการแล้วเสร็จได้ 50% จะเห็นภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมชายหายมากขึ้น ส่วนพื้นที่ไนท์ไลฟ์นั้น ก็ให้อยู่ที่เฉพาะโซนถนน วอล์กกิ้ง สตรีทเท่านั้น”อย่างไรก็ดี ด้านการรองรับนักท่องเที่ยวในพัทยานั้น พบว่า ขณะนี้พัทยามีห้องพัก 126,000 ห้องพัก จากโรงแรม คอนโดมิเนียม เกสต์เฮ้าส์ 2,000 แห่ง ซึ่งมากเพียงพอรองรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีข้อจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ระบบสาธารณูปโภค อาทิ น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน และ ระบบขนส่ง โดยอพท.ได้เตรียมพัฒนาแลนด์มาร์คสีเขียวที่กำลังจะเกิดขึ้น ให้รองรับสภาพแวดล้อม ที่มีความงดงามตามธรรมชาติ และไม่เดือดร้อน หรือส่งผลกระทบต่อสาธารณูปโภคเดิมที่มีอยู่ด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทุ่ม154ล้านผุดพัทยาแลนด์มาร์คสีเขียว

Posts related