นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วง2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า อ่อนค่าลง 0.6% แต่ทั้งนี้ มาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลักเนื่องจากเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของสหรัฐอเมริกาไตรมาสที่ 2ปรับตัวดีขึ้นจาก 4.2% เป็น 4.6%ขณะที่เศรษฐกิจสหภาพยุโรปนั้น ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นแรงสนับสนุนให้มีแรงซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง “เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ก็ล้วนอ่อนค่าลงทั้งหมด ซึ่งเงินบาทไทยก็อ่อนค่าอยู่ระดับกลาง ๆ และปัจจัยในประเทศไม่ได้มีผลอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด  แม้ตัวเลขการนำเข้า และส่งออกของไทย จะชะลอลงต่อเนื่องก็ตามแต่ขณะนี้ คงเป็นเรื่องของยุโรป และสหรัฐมากกว่า” ส่วนการประชุมธนาคารกลางโลก (เวิล์ดแบงก์) ที่จะหารือกันในเร็วๆนี้นั้น มองว่าคงมีการพูดคุย และถกเถียงกันถึงเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆที่แตกต่างกัน รวมถึงประสิทธิภาพของมาตรการในการดูแลเศรษฐกิจของแต่ละประเทศด้วยว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์ในยุโรปโดยเฉพาะความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายหรือไม่ แต่จากการประเมินเบื้องต้นแล้ว พบว่าขณะนี้ยังไม่เห็นการไหลออกของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผิดปกติแต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยธปทา.ยังติดตามดูอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระยะต่อไปด้วย “คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เรื่องเงินทุนไหลเข้าไหลออกแต่ขณะนี้ยังไม่เห็นเงินไหลออกจากไทยที่ชัดเจนแต่มองว่าจากรายละเอียดของมาตรการยุโรปที่ไม่ชัดเจนนั้น ทำให้ตลาดประเมินว่าประสิทธิภาพและนโยบายก็จะไม่ชัดเจนตามไปด้วย คงต้องติดตามดูระยะหนึ่งก่อน”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.จับตาเงินทุนเคลื่อนย้ายหลังบาทอ่อน

Posts related