นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง เตรียมจัดตั้งโครงการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนรากหญ้า และแก้ปัญหาหนี้นอกระบบนั้น ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะช่วยให้ผู้กู้เงิน และผู้ปล่อยกู้ เข้ามาอยู่ในระบบการเงิน รวมถึงให้รากหญ้าเข้าถึงการกู้เงินในสถาบันการเงินได้เพิ่มมากขึ้น และก่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค อีกทั้งเห็นว่ามีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีความโปร่งใสในการดำเนินงานด้วย ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้น เบื้องต้นมองว่าอาจจะสูงกว่าสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อบุคคลที่ 28% เนื่องจากมีความเสี่ยงมากกว่า “นาโนไฟแนนซ์นั้น เป็นการปล่อยกู้แก่รากหญ้าที่ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ซึ่งนับเป็นรายย่อยมาก ๆ แม้ว่าธนาคารพาณิชย์จะกระจายการเปิดสาขาไปทั่วประเทศ ก็ยังคงไม่สามารถเข้าถึงรายย่อยกลุ่มนี้ได้ ดังนั้นการมีนาโนไฟแนนซ์ ก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีตัวหนึ่ง ทั้งเรื่องของการกำกับดูแลคุ้มครองผู้บริโภค แต่ในส่วนของธปท.นั้น คงไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งแต่อย่างใด เนื่องจากธปท.มีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพของสถาบันการเงินอยู่แล้ว” อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าการดำเนินการนาโนไฟแนนซ์ อาจส่งผลให้หนี้ครัวเรือนปรับเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ยอมรับว่า ค่อนข้างแยกออกจากกันได้ยากลำบาก เนื่องจากไม่สามารถทราบข้อมูลได้ว่าเป็นการรีไฟแนนซ์จากหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบหรือไม่

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.หนุนตั้งสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์

Posts related