นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือน ก.ย.นี้ ธปท.จะทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ใหม่อีกครั้ง โดยรวมสมมติฐานด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนปี 57-58 มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าไปด้วย ซึ่งมองว่า การลงทุนของภาครัฐนั้น จะเป็นกลไกหลัก ในช่วงที่การบริโภคภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และส่งผลต่อแผนการลงทุนของภาคเอกชนในระยะต่อไปอย่างชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลของ ธปท.ที่พบว่า การลงทุนยังคงมีสัดส่วน 22% ของจีดีพี เป็นการลงทุนจากภาคเอกชน 17% และภาครัฐเพียง 5% เท่านั้น หากต้องการให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้โดยเฉลี่ยปีละ 4.5-5% ต้องเพิ่มเงินลงทุนเป็นสัดส่วน 25-27% ของจีดีพี ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร เพราะต้องดูปัจจัยเรื่องระยะเวลาการลงทุน และความเป็นไปได้ในการลงทุนจริงประกอบด้วย พร้อมกันนี้ ธปท.กำลังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่าในต่างประเทศ ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในหลายประเทศแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มระมัดระวังการดินทาง และควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งอาจจจะส่งผลกระทบต่อไทยด้วยเช่นกัน จึงต้องประเมินว่ากรณีดังกล่าว จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.เล็งปรับจีดีพีใหม่ ก.ย.นี้

Posts related