ขณะที่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลโดยการกำหนดให้มีการปิดกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Shut Down ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้แรงกดดดันที่มีต่อสื่อมวลชนก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์หลายสถานีและหนังสือพิมพ์หลายฉบับถูกกดดันจากทั้งฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลถึงเรื่องความเป็นกลางในการนำเสนอข้อมูล สื่อจึงตกเป็นเป้าหมายของการถูกควบคุมจากทั้งสองขั้ว นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก บริษัทฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิองค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เราได้เห็นในปีที่ผ่านมาคือ สื่อสังคมออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งเฟสบุ๊ค หรือไลน์ ที่ได้เติบโตและทวีความสำคัญในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นบริการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตและเพิ่มพื้นที่สำหรับแชร์ข้อมูลโพสต์ข้อความบน Timeline “ในวันนี้จำนวนผู้ใช้เฟสบุ๊คในประเทศไทยนั้นมีอยู่ประมาณ 18.5 ล้านคน เป็นจำนวนที่สูงมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตในประเทศรวม 25 ล้านคน ขณะเดียวกันไลน์ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็มียอดผู้ใช้ไล่ตามเฟสบุ๊คมาติดๆที่ 18 ล้านคน ประชาชนเริ่มมีความกังวลเรื่องการปิดกั้นและจำกัดสิทธิของสื่อระหว่างการประท้วงมากขึ้นนั้น จึงเริ่มหันมาพึ่งพาข้อมูลข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางหลักแทนสื่อโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์” นอกจากนี้ ในช่วงวันปีใหม่ข้อมูลจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแสดงให้เห็นถึงการใช้งานข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นสูงจากปกติถึง 300% โดยเฉพาะการส่งข้อความอวยพรผ่านแชทแอพพลิเคชั่น เช่น ไลน์ เป็นต้น ผลการสำรวจพบว่า คนไทยใช้งานรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 15 เม็กกะไบต์ แต่เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า ตัวปริมาณการใช้งานจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่านั้นระหว่างการประท้วง เพราะคนจำนวนมากใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเข้าถึงข่าวสาร โพสต์ รูปภาพ ดูคลิปวีดีโอ รวมถึงใช้งานอินเตอร์เน็ตทีวีอย่างต่อเนื่อง การเตรียมระบบเครือข่ายและสารสนเทศที่มีอยู่ให้พร้อมเพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่สูงขึ้น จะเป็นความท้าทายที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเผชิญ ทั้งหน่วยงานในภาครัฐและผู้ให้บริการในภาคเอกชน” อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์จะทำได้สะดวก แต่ผู้ใช้งานก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังใช้วิจารณญาณมากขึ้นในการวิเคราะห์ที่มาและความถูกต้องของข่าวสารที่ได้รับ “สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังและเข้าถึงได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งอันตรายถ้าหากถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งผู้ใช้งานมักเชื่อและให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารที่ถูกส่งต่อโดยเพื่อนหรือคนรู้จักบนอินเตอร์เน็ต ดังนั้นทุกคนควรใช้วิจารณญาณในการรับฟังและวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ ทั้งในส่วนของเนื้อหา ที่มา และผลกระทบในด้านต่างๆก่อนที่จะเชื่อหรือส่งต่อไปยังบุคคลอื่นบนสังคมออนไลน์” นักวิเคราะห์กล่าว สำหรับผลกระทบในภาคธุรกิจ นาย อิง ล็อก โกะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้ให้ความเห็นว่า การประท้วงปิดกรุงเทพฯครั้งนี้จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในระดับนานาชาติอย่างแน่นอน โดยกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวจะเสียโอกาสจากนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเซีย เช่น สิงคโปร์ จีน เกาหลี ฮ่องกง ใต้หวัน ญี่ปุ่น ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาช่วงตรุษจีนและวันหยุดโกลเด้นวีคมาเที่ยวประเทศไทย ภาพลักษณ์ในทางลบที่เกิดจากการประท้วงจะส่งให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้เปลี่ยนใจเลือกใช้วันหยุดในประเทศอื่น” “ถ้าหากวิกฤติการณ์ทางการเมืองนี้ดำเนินต่อไป จะเกิดผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศ ในขณะนี้นักลงทุนจำนวนมากจากทั้งในและต่างประเทศเริ่มชะลอการลงทุนจนกว่าจะได้บทสรุปของการประท้วงในครั้งนี้ ซึ่งในช่วงต้นปีเป็นช่วงเวลาที่หน่วยงานจำนวนมากเริ่มกำหนดแผนธุรกิจของปีนั้นๆ สำหรับปีนี้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นที่จะต้องคิดถึงแผนรองรับในกรณีที่สถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : นักวิเคราะห์ชี้ชัดช่วงชุมนุมคนไทยพึ่งข้อมูลโลกออนไลน์แทนสื่อหลัก
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs