นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า สรุปสถานการณ์การเกิดอุทกภัยทั่วประเทศประจำวันที่ 2 ก.ย. พบว่าถนนทางหลวงมีสภาวะน้ำท่วมเกิดขึ้นในพื้นที่ 4 จังหวัด พะเยา น่าน มหาสารคาม และขอนแก่น รวม 4 สายทาง โดยแบ่งออกเป็นเส้นทางผ่านไม่ได้ 1 แห่ง ที่จังหวัดพะเยา บริเวณทางหลวงหมายเลข 1092 ปัวดอย – สิบสองพัฒนา ท้องที่อำเภอปง กม.ที่ 27 เกิดปัญหาคอสะพานขาดจึงควรหลีกเลี่ยงและกันมาใช้เส้นทางของ ทช. แล้วแยกเข้า ทล. 1148 ตอน สะเกิน – สบทุแทน จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนี้ส่วนอีก 3 เส้นทางมีน้ำท่วมขัง รถสัญจรได้แต่ไม่สะดวก ประกอบด้วย จังหวัดน่าน บริเวณทางหลวงหมายเลข 1081 บ้านเวร – ห้วยโก๋น ท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ กม.ที่ 111 – 113 เกิดปัญหาดินสไลด์ปิดทับคันทาง ทำให้การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก จังหวัดมหาสารคาม บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 พรหมนิมิต – ห้วยสีดา ท้องที่อำเภอเชียงยืน กม. ที่ 580 -581 มีปัญหาระดับน้ำท่วมสูง 10 ซม.และจังหวัดขอนแก่น บริเวณทางหลวงหมายเลข 2039 น้ำพอง – น้ำอ้อม ท้องที่อำเภอกระนวน กม.ที่ 26 – 27 มีระดับน้ำท่วมสูง 30 ซม. การจราจรผ่านได้ไม่สะดวกสำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้เส้นทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้น และขอให้สอบถามเส้นทางก่อนการเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ที่เบอร์โทรศัพท์สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือเข้าไปดูข้อมูลได้ที่www.doh.go.thด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจากอุทกภัย วันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย.57 มีทั้งสิ้น 7 เส้นทาง อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ จังหวัดกำแพงเพชร 1 เส้นทาง , เชียงราย 4 เส้นทาง และแม่ฮ่องสอน 2 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้ กรมฯได้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้รถสามารถใช้งานได้ตามปกติครบทุกเส้นทางแล้วสำหรับงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในปี 57 กรมฯได้ตั้งงบประมาณไว้ทั้งสิ้น 810 ล้านบาท โดยคาดว่าหลังน้ำลดจะเร่งเข้าพื้นที่เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมพื้นผิวที่เสียหายให้เป็นไปตามมาตรฐานทางต่อไป ส่วนงบประมาณปี 58 ได้ตั้งงบประมาณสำหรับใช้ซ่อมแซมถนนที่คาดว่าจะเข้าข่ายอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยประมาณ 1,461 ล้านบาท โดยทางกรมฯ จะเร่งเข้าไปสำรวจและซ่อมแซมบริเวณคอสะพานที่ได้รับความเสียหายก่อน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง เช่น พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ภาคใต้ เป็นต้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : น้ำท่วมถนนอ่วม

Posts related