ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการกินเจเพื่อล้างท้อง ก่อนจะเริ่มต้นเทศกาลกินเจ ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ มีความคึกคักมาก เริ่มเห็นร้านค้า รวมถึงแผงลอยต่าง ๆ ติดป้ายสัญลักษณ์ขายอาหารเจ หรือธงเหลืองอย่างหนาตา โดยเฉพาะในศูนย์การค้า ที่จัดเทศกาลจำหน่ายอาหารเจกันแทบทุกแห่ง โดยจะสังเกตเห็นว่า การขายอาหารเจเริ่มแพร่หลาย และสามารถหากินได้ง่ายขึ้น เช่น ในบริเวณอาคารสำนักงาน ที่จัดเต้นจำหน่ายอาหารเจขึ้นเป็นปีแรก สะท้อนว่าชาว ไทยนิยมรับประทานเจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ดีจากสอบถามผู้ประกอบการที่จำหน่ายอาหารเจพบว่า ราคาอาหารเจที่จำหน่ายในปีนี้ ยังใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แม้ราคาวัตถุดิบ และผักบางชนิดปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่เป็นการปรับขึ้นน้อยกว่าช่วงเทศกาลกินเจในปี 56 ที่ผ่านมา จึงยังสามารถคงราคาขายเดิมไว้ได้ อีกทั้งปัจจุบันอาหารเจ หารับประทานได้ง่ายขึ้น เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกหลายช่องทาง สามารถเลือกซื้ออาหารเจในระดับราคาที่รับได้ จากร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ดังนั้น จึงกังวลว่าจะขายไม่ได้ หากตั้งราคาอาหารแพงเกินไปขณะที่ราคาสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในศูนย์การค้าหลายแห่ง ยังพบว่าราคาผักและผลไม้ บางชนิดปรับขึ้นบ้าง ตามเทศกาลเช่น ชุดผักสลัดชนิดถุง ที่ปรับราคาจาก 49 บาทเป็นกว่า 70 บาท เป็นต้น ขณะที่สินค้าบางอย่าง ยังคงจำหน่ายในราคาสินค้าเท่าเดิม ทั้งนี้ ผู้บริโภคจึงต้องระมัดระวัง และสังเกตป้ายราคาสินค้าก่อนชำระเงินทุกครั้ง เพื่อความถูกต้องส่วนในช่วงเทศกาลกินเจ ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 ก.ย. นี้ กรมการค้าภายในจะจัดสำหรับกิจกรรมกินเจภายในงาน“ผักสดจากสวนสู่ผู้บริโภค…เทศกาลกินเจ57” รวม9วันทั้งในเขตกรุงเทพฯและภูมิภาค รวม 4จังหวัดรวม 6แห่งโดยในกทม.จะจัดที่ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรีและตลาดยิ่งเจริญส่วนภูมิภาคจัดที่ตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชรจังหวัดกำแพงเพชร, ตลาดรังสิต จังหวัดปทุมธานี,ตลาดไท จังหวัดปทุมธานีและศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จังหวัดปัตตานีโดยกำหนดจะจัดให้มีพิธีเปิดงาน “ผักสดจากสวนสู่ผู้บริโภค…เทศกาลกินเจ2557” ในวันที่ 24 ก.ย.57 เวลา10.00 น.ณ ตลาดยิ่งเจริญสำหรับสถานการณ์ราคาผักในตลาดกรุงเทพฯขณะนี้ กรมการค้าภายในพบว่า ผักหลายประเภทยังอยู่ในภาวะทรงตัว ขณะที่หลายประเภทปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน2-6บาทต่อกก. เช่น ผักคะค้าคัด อยู่ที่ 22-25บาทต่อกก. ลดลง 5-6 บาท จากสัปดาห์ ก่อนที่อยู่ระดับ 28-30 บาทต่อกก., ถั่วฝักยาวอยู่ที่ 22-25 บาทต่อกก. ลดลง 3-5 บาทต่อกก. จากสัปดาห์ก่อนที่อยู่ระดับ 25-30 บาทต่อกก. ,มะระจีนอยู่ที่ 28-30บาทต่อกก. ลดลง 2-5 บาทต่อกก. จากสัปดาห์ก่อนที่อยู่ 30-35 บาทต่อกก., หัวผักกาดอยู่ที่ 18-20 บาทต่อกก. ลดลง 2 บาทต่อกก. จากสัปดาห์ที่อยู่ระดับ 20-22 บาทต่อกก.สาเหตุที่ราคาลดลงนั้น มาจากปริมาณผักที่ออกมาสู่ตลาดมีจำนวนมาก เพราะเกษตรกรตั้งใจให้ผลผลิตออกมาให้ตรงกับเทศกาลกินเจ ประกอบกับน้ำท่วมที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกันยังพบว่าเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังซบเซา หากราคาสูงอาจขายได้ลำบาก
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บรรยากาศเทศกาลกินเจสดใส
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs