นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้แจ้งพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เลขานุการคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการบมจ.บางจากฯ ว่า บางจากฯ พร้อมที่รับซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพ (ข้าวเน่า) จากโครงการรับจำนำข้าวของภาครัฐ มาผลิตเอทานอล แต่ทั้งนี้ ต้องการให้คสช.พิจารณายกเลิกการใช้น้ำมันเบนซิน 95 เพื่อขยายปริมาณการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น เพราะหากรับซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพ เท่ากับว่า โรงงานเอทานอล จะใช้ผลผลิตจากมันสำปะหลังลดลง และจะกระทบเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะรับซื้อปริมาณข้าวเสื่อมคุณภาพจากรัฐ มาทำเอทานอลได้เท่าไร ราคารับซื้อเป็นอย่างไร เพราะต้องรอให้ภาครัฐระบุให้ชัดก่อน ว่าข้าวเสื่อมคุณภาพในสต๊อกรัฐบาล มีเท่าไร และขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมในการรับซื้อ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาปริมาณ คุณภาพแป้งในข้าว ว่าจะสามารถผลิตเอทานอลได้อย่างไรบ้าง และมีต้นทุนการผลิตเปรียบเทียบกับมันปะหลัง ราคาต่างกันแค่ไหน“การรับซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพจากรัฐบาล เพื่อเป็นการช่วยเหลือรัฐบาล ในการบริหารข้าวเสื่อมคุณภาพในขณะนี้ ส่วนที่ต้องการให้รัฐพิจารณายกเลิกใช้เบนซิน 95 เนื่องจากต้องการขยายปริมารการใช้เอทานอลมากขึ้น เพราะหากใช้ข้าวผลิตเอทานอล ก็ต้องใช้มันสำปะหลังลดลง จะกระทบต่อผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยขณะนี้ยอดใช้อยู่ที่ 2.87ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น และขณะนี้รถทั้งหมด ทั้งมอเตอร์ไซค์ รถหรู รถยนต์ต่าง ๆ สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ได้แล้วทั้งหมด แต่หากรัฐบาลให้รับซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพ แต่ยังไม่ยกเลิกใช้เบนซิน 95 ก็ต้องดูกันอีกครั้ง ว่าจะกระทบผู้ปลูกมันสำปะหลังหรือไม่”ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้มั่นใจว่า บางจาก ฯ จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี และค่าเสื่อมราคา (อิบิทด้า) จะเป็นไปตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท มาจากรายได้โรงกลั่นน้ำมัน และค้าปลีกน้ำมัน 70% และมาจากธุรกิจใหม่ และพลังงานทดแทนอีก 30% และในปี 63 อิบิด้าจะอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท จะเป็นรายได้จากโรงกลั่นน้ำมันและการขายปลีกน้ำมัน 50% ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะมาจากธุรกิจใหม่และพลังงานทดแทนนอกจากนี้ บางจากยังได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทนิโด้ ปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศออสเตรเลีย ที่ดำเนินธุรกิจด้านการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมสัดส่วน 19.66% มูลค่า22.2ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 670 ล้านบาท และได้เสนอขอซื้อหุ้นนิโด้จากผู้ถือหุ้นที่เหลือทั้งหมดในราคาเดียวกัน เป็นการเสนอซื้อนอกตลาดหลักทรัพย์ ด้วยเงินสดวงเงินรวมไม่เกิน 98.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ2,950ล้านบาท เมื่อรวมกับครั้งก่อน คิดเป็นวงเงินทั้งสิ้น 120.4 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 3,620 ล้านบาท การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะทำให้บางจากฯ มีวัตถุดิบของตัวเองและดำเนินธุรกิจครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแหล่งข่าวจากบมจ.ปตท. กล่าวถึงกรณีนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะบอร์ดบมจ.ปตท.ระบุว่าจะให้บมจ.ปตท.รับซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพที่มีอยู่ในสต็อกโครงการรับจำนำข้าว100,000ตัน เพื่อนำไปผลิตเอทานอล ว่า ในส่วนของปตท.ไม่มีโรงผลิตเอทานอลเป็นของตัวเอง จึงไม่สามารถผลิตได้ แต่ถ้าต้องให้ปตท. ต้องรับซื้อจริง คงจะต้องให้บริษัทที่ปตท.ถื อหุ้นที่มีโรงผลิตเอทานอล คือ บมจ.ไทยออยล์ และบมจ.บางจากฯ เป็นผู้รับซื้อแทน ส่วนราคารับซื้อจะเป็นอย่างไร จะต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนสถานีบริการน้ำมันที่ยังจำหน่ายเบนซิน 95 เช่นปั๊มปตท., ปั๊มเชลล์,ปั๊มเอซโซ่,ปั๊มคาลเท็กซ์ ขณะที่ปั๊มบางจาก ฯ ยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 95 เน้นการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งมีส่วนผสมจากเอทานอลรายงานข่าวจากกระทรวงการคลั งกล่าวว่า เบื้องต้นได้คำนวณต้นทุนข้าวที่รับจำนำจะเฉลี่ยอยู่ที่ 24,000 บาทต่อตัน เป็นในส่วนของค่ารับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน ค่าใช้จ่ายสีข้าว ค่าเก็บดูแลรักษา และต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ โดยที่กระทรวงการคลัง คาดว่าจำนวนข้าวที่เสียหาย 1 แสนตันนั้น จะคิดเป็นมูลค่า2,400 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รู้ว่าปตท.จะรับซื้อในราคาดังกล่าวหรือไม่

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บางจากเสนอซื้อข้าวเน่าแลกเลิกขายเบนซิน 95

Posts related